ไม่มีการเลื่อนเกมอย่างที่หวั่น และไม่มีข้อกังขาอะไรทั้งนั้นเมื่อ ลิเวอร์พูล บุกไปเผด็จศึก อาร์เซน่อล ได้อย่างนิ่มแข้งด้วยสกอร์ 2-0 ในรอบตัดเชือกนัดสองของศึก คาราบาวคัพ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 ม.ค.
แม้เกมแรกที่ แอนฟิลด์ หงส์แดง จะกิน ปืนโต ที่เหลือสิบคนตั้งแต่กลางครึ่งแรกไม่ลง แต่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ไม่ทำให้สาวก เดอะ ค็อป ผิดหวังในเกมนัดสองที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
จึงเป็นอันว่า เร้ด แมชีน สร้างสถิติเป็นทีมที่เข้าชิงดำถ้วย ลีกคัพ มากที่สุดเป็นครั้งที่ 13 แล้ว และนี่คือ 7 จุดที่น่าสนใจในเกมนี้
1.ลิเวอร์พูล ทีมที่ อาร์เซน่อล ไม่อยากเจอมากที่สุด
นับตั้งแต่ได้ คล็อปป์ เข้ามากุมบังเหียน เดอะ กันเนอร์ส คือคู่แข่งที่ หงส์แดง สอยตาข่ายได้มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งในทุกรายการ 43 ประตูซึ่งรวมเกมล่าสุดก็ปาเข้าไป 45 ประตูแล้ว
ขณะเดียวกัน จากการเผชิญหน้ากัน 18 ครั้งหลังของคู่นี้ ทีมเมืองกรุงสามารถหักปีก หงส์แดง ได้แค่หนเดียวเท่านั้น (ลิเวอร์พูล ชนะเก้า เสมอแปด) แถมห้านัดหลัง อาร์เซน่อล ไม่เคยลั่นสกอร์ใส่ทีมจาก แอนฟิลด์ ได้เลยแม้แต่ประตูเดียวอีกด้วย
2. หงส์แดง นำเกมเยือนก่อนในครึ่งแรกไม่เคยแพ้
หลังดวลกันได้ 19 นาที ดีโอโก้ โชต้า ก็คลำเป้าพา เร้ด แมชีน ออกนำ 1-0
และมีสถิติเผยว่า ลิเวอร์พูล ไม่เคยแพ้ฝ่ายตรงข้ามเลยจากการลงบู๊นัดเยือน 39 นัดหลังในทุกรายการ หากพวกเขาเป็นฝ่ายนำหน้าไปก่อนในครึ่งแรก
จนในที่สุด หงส์แดง เป็นฝ่ายกำชัยเหนือ เดอะ กันเนอร์ส 2-0 เพิ่มสถิติด้านนี้ต่อไปอีกเป็นเกมที่ 40 เข้าไปแล้ว (ชนะ 37 เสมอ3)
สำหรับนัดสุดท้ายที่ ลิเวอร์พูล บุกไปนำเจ้าบ้านใน 45 นาทีแรก แต่ลงเอยด้วยความปราชัยได้แก่นัดฟาดเกือกกับ โรม่า ในถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก เดือนพ.ค.2018
3. อาร์เซน่อล ทีมสุดโปรดของ ดีโอโก้ โชต้า
แม้นัดก่อนที่บู๊กันใน แอนฟิลด์ ดาวเตะโปรตุกีสจะยิงประตูไม่ได้โดยทั้งสองทีมเจ๊ากันไป 0-0
แต่สำหรับเกมนี้ อดีตพ่อค้าแข้งทีม วูล์ฟส์ เบิกสกอร์พา ลิเวอร์พูล ออกนำได้สำเร็จซึ่งเป็นการพังประตูทีม ปืนใหญ่ ลูกที่สี่ของเขาจากการบู๊กับ อาร์เซน่อล สี่นัดหลังในทุกรายการ
เท่านั้นไม่พอ โชต้า ยังมาเพิ่มผลงานของตัวเองเป็นประตูที่ห้ากับ เดอะ กันเนอร์ส ในสี่นัดหลังอีกต่างหาก
4. ลิเวอร์พูล ยังไร้สามสตาร์แอฟริกันต่อไป
ตกลงว่าทั้ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ , ซาดิโอ มาเน่ และ นาบี้ เกอิต้า สามคีย์แมนของ ลิเวอร์พูล ยังต้องฟาดแข้งในศึก แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ ต่อไป
มันเป็นเพราะว่าทีมชาติของทั้งสามสามารถเข้ารอบฟุตบอลรายการดังกล่าวได้ ผิดกับ โธมัส ปาร์เตย์ มิดฟิลด์ อาร์เซน่อล ที่บินกลับมารับใช้สโมสรได้ทันทีเนื่องจาก กาน่า พลิกล็อคตกรอบเรียบร้อยแล้ว
และที่สำคัญ อดีตกองกลางทีม แอตเลติโก มาดริด บินด่วนกลับมาถึงอังกฤษช่วงเที่ยงของวันฟาดแข้งกับ ลิเวอร์พูล ด้วย และถูกเจ้านาย มิเกล อาร์เตต้า ใส่ชื่อเป็นตัวสำรองทันที
แล้วดูเอาซิ ปาร์เตย์ ได้ลงเล่นช่วงกลางครึ่งหลังแท้ๆ แต่แทนที่จะช่วยอะไรทีมได้บ้างกลับทำทะเล่อทะล่าคว้าสองใบเหลืองจนโดนไล่ออกซะอย่างนั้น
5. อาร์เซน่อล เหลือ พรีเมียร์ลีก แค่รายการเดียวเท่านั้น
ก่อนหน้านี้ ทีม ปืนใหญ่ ตกรอบสามถ้วย เอฟเอคัพ ไปแล้วหลังบุกไปแพ้ ฟอเรสต์ ทีมรองบ่อนอย่างน่าอับอาย 1-0 จนทำเอา อาร์เตต้า ต้องขอโทษแฟนบอล
และมาวันนี้ พวกเขาร่วงตกรอบตัดเชือกถ้วย คาราบาว เช่นกัน มันจึงหมายความว่าทีมจากลอนดอนไม่มีอะไรให้ลุ้นในซีซั่นนี้อีกแล้ว ยกเว้นการคว้าอันดับท๊อปโฟร์ใน พรีเมียร์ลีก เท่านั้น
ซึ่งมันเป็นเพราะว่าซีซั่นก่อนทีมเมืองหลวงคว้าโควต้าลงเล่นถ้วยยุโรปไม่สำเร็จนั่นเอง พวกเขาจึงไม่มีโทรฟี่ประดับตู้โชว์ในซีซั่นนี้ร้อยเปอร์เซนต์แล้ว
อย่างไรก็ดี เมื่อเอ่ยถึงการคว้าตั๋ว แชมเปี้ยนส์ลีก ของทีมใน พรีเมียร์ลีก สเปอร์ส คือเต็งหนึ่งที่จะคว้าอันดับสี่จากการกำหนดอัตราต่อรองล่าสุดดังนี้
สเปอร์ส 7-4
อาร์เซน่อล 21-10
แมนฯ ยูไนเต็ด 9-4
เวสต์แฮม 15-2
6. ดูซาน วลาโฮวิช ต้องมา
จากขุมกำลังปัจจุบันของ อาร์เตต้า การติดต่อขอซื้อ ดูซาน วลาโฮวิช โดยยอมทุ่มจ่ายอย่างแพงให้ ฟิออเรนติน่า เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ไม่ยากเลย
หากไม่นับ ปิแอร์ เอเมริค โอบาเมยอง กัปตันเจ้าปัญหาซึ่งระยะหลังฟอร์มตกฮวบเช่นกัน อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์ ก็ชราภาพไปมาก และเชื่องช้าอย่างเห็นได้ชัดจนไม่เหลือความน่าเกรงขามอีกแล้ว
หลังจบซีซั่นนี้ กองหน้าเฟรนช์แมนจะไปจาก เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม แน่นอนซึ่งทำให้ อาร์เซน่อล เหลือแค่ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ รายเดียวเท่านั้นที่สามารถพึ่งพาอาศัยได้จากการแสดงให้เห็นถึงทักษะที่น่าประทับใจ
ฉะนั้นแล้ว เดอะ กันเนอร์ส ต้องรอลุ้นดูว่ากองหน้าทีมชาติเซอร์เบียจะโอเคย้ายสู่ พรีเมียร์ลีก หรือไม่หลังจาก ม่วงมหากาฬ ตกเป็นข่าวตอบรับข้อเสนอจากทีม ปืนใหญ่ แล้ว
7. เชลซี แชมป์ คาราบาวคัพ!
ริโอ เฟอร์ดินานด์ อดีตกองหลังทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ทำนายออกมาอย่างนี้ตั้งแต่ก่อนคู่นี้จะลงเล่นนัดที่สองด้วยซ้ำ
หลังเห็น เชลซี กำราบ สเปอร์ส สองนัดด้วยสกอร์รวม 3-0 กูรูคนดังก็ชี้นิ้วไปที่ สิงห์บลูส์ เลยว่าจะได้แชมป์รายการนี้ไปครอง ไม่ว่าคู่ต่อกรของพวกเขาในนัดชิงชนะเลิศจะเป็น ลิเวอรืพูล หรือ อาร์เซน่อล
เหตุผลของอดีตเซ็นเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติอังกฤษคือทีมของ โธมัส ทูเคิ่ล ซึ่งสร้างผลงานพาทีมเข้าชิงดำฟุตบอลถ้วยถึงสามรายการทั้ง แชมเปี้ยนส์ลีก , เอฟเอคัพ และ คาราบาวคัพ รู้ถึงวิธีการเล่นเพื่อคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยเป็นอย่างดี
แต่ทั้งนี้ พ่อหมอริโอจะทำนายได้อย่างถูกต้อง หรือว่าจะหน้าแหก อดใจรอลุ้นกันได้ในวันที่ 27 ก.พ.
ติดตามอัพเดตข่าวกีฬาฟุตบอล, ตารางการแข่งขัน, ตารางคะแนน และผลฟุตบอลสดได้ที่นี่ ufabet