เรอัล มาดริด (สเปน) – แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (อังกฤษ)
วัน – พุธ 4 พฤษภาคม 2565
เวลา – 02:00 น.
สนาม – ซานเตียโก เบร์นาเบว
สถิติ 5 นัดหลังสุดที่เจอกัน
5 นัดหลังสุดที่สองทีมได้มีโอกาสเจอกัน เรอัล มาดริด ชนะ 1 นัด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ 4 นัด และทั้งคู่ช่วงหลังที่เจอกัน ยังไม่เคยจบด้วยผลเสมอเลยสักเกม
27/04/22- แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ เรอัล มาดริด 4-3
08/08/20- แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ เรอัล มาดริด 2-1
27/02/20- เรอัล มาดริด แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-2
27/07/17- แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ เรอัล มาดริด 4-1
05/05/16- เรอัล มาดริด ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0
ผลงาน 5 นัดหลังสุดรวมทุกรายการ
เรอัล มาดริด
เอสปันญ่อล(เหย้า) ชนะ 4-0
แมนเชสเตอร์ ซิตี้(เยือน) แพ้ 4-3 *UCL
โอซาซูน่า(เยือน) ชนะ 3-1
เซบีย่า(เยือน) ชนะ 3-2
เชลซี(เหย้า) แพ้ 1-3 *UCL
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ลีดส์ ยูไนเต็ด(เยือน) ชนะ 4-0
เรอัล มาดริด(เหย้า) ชนะ 4-3 *UCL
วัตฟอร์ด(เหย้า) ชนะ 5-1
ไบรท์ตัน(เหย้า) ชนะ 3-0
ลิเวอร์พูล(สนามกลาง) แพ้ 2-3 *เอฟเอคัพ
ความพร้อมก่อนเกมคืนนี้
เรอัล มาดริด
เกมนี้จะหมดสิทธิ์ใช้งาน แกเร็ธ เบล, อีสโก้ และ เอแด็น อาซา ที่สภาพร่างกายไม่สมบูรณ์เหมือนเดิม รวมไปถึง ดาวิด อลาบา ที่มีปัญหาเรื่องความฟิต ก็อาจจะได้ออกสตาร์ทเป็นแค่ตัวสำรอง นอกจากนี้ก็ไม่มีรายงานอะไรเพิ่มเติม นักเตะที่คาดว่าจะถูกส่งลงสนาม ก็มี
ติโบต์ กูร์กตัวส์ – ดาเนียล การ์บาฆาล, เอแดร์ มิลิเตา, นาโช่ เฟร์นานเดซ, แฟร์กล็องด์ เมนดี้ – ลูก้า โมดริช, การ์ลอส กาเซมีโร่, โทนี่ โครส – เฟเดรีโก้ วัลเวร์เด้, คาริม เบนเซม่า, วินิซิอุส จูเนียร์
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
เกมนี้ทีมจะขาดแค่ ไคล์ วอล์คเกอร์ เท่านั้น เพราะมีเจ้าตัวเดี้ยงอยู่คนเดียว ส่วนในรายของ ชูเอา กานเซโล่ ที่พ้นโทษแบนแล้ว จะกลับมาลงสนามได้ตามปกติ นอกจากนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไรเพิ่มเติม นักเตะที่คาดว่าจะถูกส่งลงสนาม ก็มี
เอแดร์ซอน – ชูเอา กานเซโล่, รูเบน ดีอาส, เอมเมอริก ลาปอร์กต์, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ – เควิน เดอ บรอยน์, โรดรีโก้ เอร์นานเดซ โรดรี้, อิลคาย กุนโดกาน – กาเบรียล เชซุส, ฟิล โฟเด้น, แบร์นาร์โด้ ซิลวา
สรุปผล วิเคราะห์บอล
นัดแรกที่เจอกัน แมนซิตี้ เป็นฝ่ายเอาชนะได้ก่อน แถมมีผลต่างประตูได้เสียตุนไว้ 1 ลูกด้วย ซึ่งเกมนี้มองว่า เป็ป กวาร์ดิโอลา น่าจะเอาข้อผิดพลาดเรื่องเกมรับหละหลวมมาปรับใหม่ให้ดีขึ้นกว่าเดิม เพราะซิตี้มีบทเรียนมาแล้วจากนัดแรกที่เจอกัน ฉะนั้นแมตช์นี้ เรือใบสีฟ้า จะมาแบบรัดกุม และน่าจะบุกไปทำประตูเพิ่มได้อีกอย่างน้อย 1 ประตูด้วย จึงไม่แปลกถ้าสุดท้ายแล้วทีมที่จะไปชิงกับ ลิเวอร์พูล มันจะเป็นทีมจากประเทศอังกฤษด้วยกันเอง
สนับสนุนบทวิเคราะห์โดย ufabet