วันพุธที่ 24 พฤศจิกายน 2564
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (รอบแบ่งกลุ่ม)
ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) -VS- ปอร์โต้ (โปรตุเกส)
เวลา : 03:00 น.
สนาม : แอนฟิลด์
ถ่ายทอดสด : beIN SPORTS 2
เรตราคาไทย : ลิเวอร์พูล ต่อ 0.5
ผลการพบกันทั้ง 2 ทีม
15/02/18 ปอร์โต้ 0-5 ลิเวอร์พูล (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
07/03/18 ลิเวอร์พูล 0-0 ปอร์โต้ (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
10/04/19 ลิเวอร์พูล 2-0 ปอร์โต้ (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
18/04/19 ปอร์โต้ 1-4 ลิเวอร์พูล (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
28/09/21 ปอร์โต้ 1-5 ลิเวอร์พูล (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
ผลงาน 5 นัดหลังสุด
ลิเวอร์พูล (อังกฤษ)
27/10/21 ชนะ เปรสตัน นอร์ท เอนด์ 2-0 (เยือน, อีเอฟแอล คัพ)
30/10/21 เสมอ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน 2-2 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)
03/11/21 ชนะ แอตเลติโก มาดริด 2-0 (เหย้า, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
07/11/21 แพ้ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-3 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
20/11/21 ชนะ อาร์เซน่อล 4-0 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)
ปอร์โต้ (โปรตุเกส)
27/10/21 แพ้ ซานตา คลาร่า 1-3 (เยือน, โปรตุกีส ลีก คัพ)
30/10/21 ชนะ เบาวิสต้า 4-1 (เหย้า, พรีเมรา ลีกา)
03/11/21 เสมอ เอซี มิลาน 1-1 (เยือน, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
08/11/21 ชนะ ซานตา คลาร่า 3-0 (เยือน, พรีเมรา ลีกา)
20/11/21 ชนะ แฟเรนเซ่ 5-1 (เหย้า, โปรตุกีส คัพ)
สภาพทีมโดยทั่วไป
ลิเวอร์พูล (อังกฤษ)
เจ้าถิ่นลิเวอร์พูล ความพร้อมในแมตช์นี้ผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังมีรายชื่อผู้เล่นบาดเจ็บทั้ง โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, โจ โกเมซ, เคอร์ติส โจนส์, นาบี เกอิต้า และ ฮาร์วีย์ เอล รวมทั้งต้องเช็คความฟิตของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เจมส์ มิลเนอร์, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน และ ดีโอโก้ โชต้า การจัดทีมตามแผน 4-3-3 เตรียมพัก ซาดิโอ มาเน่, เวอร์จิล ฟาน ไดค์ และ ฟาบินโญ่ พร้อมโรเตชั่นส่ง ดิว็อก โอริกี้, อิบราฮิม่า โกนาเต้ และ ทาคุมิ มินามิโนะ ลงออกสตาร์ทพร้อม โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ติอาโก้ อัลกันตาร่า, อเล็กซ์ ออกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, โฌแอล มาติป, คอนสแตนตินอส ซิมิกาส และ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
ปอร์โต้ (โปรตุเกส)
ด้านทีมเยือนปอร์โต้ ความพร้อมในแมตช์นี้เทรนเนอร์ชาวโปรตุกีส แซร์โจ้ คอนไซเซา ไม่มีปัญหาเรื่องผู้เล่นบาดเจ็บ เพียงต้องทดสอบความฟิตของ มาเตอุส อูริเบ้, อกุสติน มาร์เคซิน, เวนเดลล์ และ ชูเอา มาริโอ โลเปส การจัดทีมในระบบ 4-4-2 เตรียมปรับทัพหลายตำแหน่งด้วยการส่ง เฮซุส มานูเอล โกโรน่า, มาร์โก กรูยิช, ซาอิดู ซานูซี่ และ โตนี่ มาร์ติเนซ กลับมาเป็นตัวจริงกับ แซร์โจ้ โอลิเวร่า, หลุยส์ ดิอาซ, มาเตอุส อูริเบ้, เปเป้, โอตาวิโอ, ชานแซล เอ็มเบมบ้า ม็องกูลู และ เมห์ดี้ ทาเรมี่ โดยมี อิบัน มาร์กาโน่, วิลซอน มานาฟา, ฟรานซิสโก้ คอนไซเซา, วีตินญ่า, นานู และ เอวานิลสัน เป็นตัวสนับสนุน
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล (อังกฤษ)
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โฌแอล มาติป, อิบราฮิม่า โกนาเต้, คอนสแตนตินอส ซิมิกาส – อเล็กซ์ ออกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, เจมส์ มิลเนอร์, ติอาโก้ อัลกันตาร่า – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ทาคุมิ มินามิโนะ, ดิว็อก โอริกี้
ปอร์โต้ (โปรตุเกส)
ปอร์โต้ (4-4-2) : ดีโอโก้ คอสต้า – เฮซุส มานูเอล โกโรน่า, ชานแซล เอ็มเบมบ้า ม็องกูลู, เปเป้, ซาอิดู ซานูซี่ – โอตาวิโอ, มาร์โก กรูยิช, แซร์โจ้ โอลิเวร่า, หลุยส์ ดิอาซ – โตนี่ มาร์ติเนซ, เมห์ดี้ ทาเรมี่
ความน่าจะเป็นของเกม
ลิเวอร์พูล ฟอร์มระยะหลังยังคงทำได้ยอดเยี่ยมหลังพ่ายเกมแรกในฤดูกาลนี้ ก่อนกลับมาคว้าชัยทันทีในเกมล่าสุด พร้อมเกมรุกยังเฉียบคมดุดัน ทำให้กวาดชัย 6 เกมจาก 8 นัดที่ผ่านมา รวมทั้งมีเกมเหย้าในแชมเปี้ยนส์ ลีก แข็งแกร่งมาก ส่วนทางด้าน ปอร์โต้ ฟอร์มช่วงหลังยังดีเยี่ยมเช่นกันกับการเก็บชัยติด 2 เกมหลังสุด ทำให้กวาดชัย 3 ใน 4 นัดหลัง และไร้พ่ายจากการลงสนาม 4 นัดที่ผ่านมา อีกทั้งเกมเยือนในแชมเปี้ยนส์ ลีก ยังสามารถทำได้ดีมาก ทำให้แมตช์นี้ “มังกรสีน้ำเงิน” กำลังคึกคัก และเน้นมากกว่าจะบุกมาเจ๊า “หงส์แดง” กลับออกไปได้