ถือเป็นผลการแข่งขันที่เซอร์ไพรส์ไม่น้อยกับการที่ เลสเตอร์ ซิตี้ สามารถเปิดบ้านเอาชนะ ลิเวอร์พูล 1-0 ในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอังคารที่ 28 ธันวาคม ที่ผ่านมาได้ เพราะเดิมทีที่ผ่านมาฟอร์มโดยรวมของ “สุนัขจิ้งจอก” ถือว่าแย่กว่า “หงส์แดง” เยอะพอตัว
ประตูของ อเดโมล่า ลุคแมน ในนาทีที่ 59 มากพอที่จะทำให้ เลสเตอร์ เก็บ 3 แต้มเต็มได้ ซึ่งที่จริงเกมนี้ ลิเวอร์พูล มีโอกาสที่จะทำประตูได้เช่นกัน จากการที่พวกเขาได้ลูกจุดโทษตั้งแต่นาทีที่ 15 แต่ว่า โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กลับยิงไม่เข้า จนเป็นการทำให้ ซาลาห์ ทำประตูจากลูกจุดโทษไม่ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2017 หลังจากก่อนหน้านี้เขายิงเป้าไม่พลาดมาถึง 15 หนติดต่อกัน
อย่างไรก็ตาม นอกจากเรื่องนั้นแล้วเกมนี้มันก็ยังมีเกร็ดที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง ซึ่งเราจะมาไล่เรียงกันสักหน่อยว่ามันมีอะไรบ้าง– วันหายากของ ซาลาห์
อย่างที่บอกไปว่ามันเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ ซาลาห์ ทำประตูจากลูกจุดโทษไม่ได้ แต่นั่นไม่ใช่เรื่องแย่ๆ เพียงอย่างเดียวที่ดาวเตะชาวอียิปต์ต้องได้รับจากเกมนี้ เพราะมันยังถือเป็นหนแรกในฤดูกาลนี้ที่ ซาลาห์ ทำประตูหรือแอสซิสต์ไม่ได้เลยเป็นจำนวน 2 เกมติดต่อกันด้วย หลังจากในเกมที่เสมอกับ สเปอร์ส 2-2 เขาก็ไม่มีส่วนร่วมกับประตูของทีมเช่นกัน
ทั้งนี้ หากจะนับย้อนไปถึงฤดูกาลก่อนด้วยล่ะก็ ครั้งสุดท้ายที่ ซาลาห์ ไม่มีส่วนร่วมกับประตูของ ลิเวอร์พูล เลยอย่างน้อย 2 เกมติดต่อกัน จากการลงเล่นในทุกรายการก็คือช่วงเดือนเมษายน ปี 2021 จากการที่เขาทำอะไรไม่ได้ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัด 2 ที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ เรอัล มาดริด 0-0 เมื่อวันที่ 14 เมษายน ก่อนที่เขาจะแผลงฤทธิ์ได้ไม่มากนักในเกมลีกที่เสมอกับ ลีดส์ 1-1 เมื่อวันที่ 19 เมษายน เพียงแต่ในเกมกับ ลีดส์ เขาลงมาเป็นตัวสำรองในช่วง 19 นาทีสุดท้ายจนทำให้ไม่มีเวลาทำอะไรมากนัก
– คลำสกอร์ไม่เจอเป็นครั้งแรก
ตลอดช่วงที่ผ่านมาทีมของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ เป็นทีมที่มีจุดเด่นในด้านเกมรุกอย่างมาก โดยก่อนที่จะลงเล่นเกมนี้นั้นพวกเขาทำประตูได้ครบทุกนัดจากการลงเล่น 28 เกมในทุกรายการของซีซั่น 2021-22 ขนาดเกมที่แพ้ เวสต์แฮม เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาพวกเขายังยิงได้ 2 ลูก ก่อนจะแพ้ไป 2-3
ด้วยเหตุนี้ เกมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาเลยถือเป็นนัดแรกในซีซั่นนี้ที่ ลิเวอร์พูล ทำประตูไม่ได้ ส่วนหากจะดูย้อนกันไปไกลกว่านั้นแล้วล่ะก็ นัดล่าสุดที่พวกเขาทำประตูไม่ได้เลยก็คือเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายที่เจ๊ากับ เรอัล 0-0 เมื่อช่วงเดือนเมษายน ที่ผ่านมา นั่นเอง ขณะที่หากจะนับเฉพาะเกมลีก นัดสุดท้ายก่อนหน้านี้ที่ ลิเวอร์พูล เท้าบอดก็คือเกมแพ้ ฟูแล่ม 0-1 เมื่อวันที่ 7 มีนาคม ที่ผ่านมา
– ตกเป็นรองต่อเนื่อง
การออกสตาร์ตที่ดีถือว่ามีส่วนสำคัญ ต่อให้คุณจะเป็นทีมที่มีเกมรุกดีแค่ไหนแต่การเป็นฝ่ายตามหลังไปก่อนมันก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะสามารถพลิกสถานการณ์ได้อยู่เสมอไป และเรื่องอย่างนั้นก็เกิดขึ้นกับ ลิเวอร์พูล ในนัดล่าสุด
ที่จริงแล้วผลงานจากเกมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาทำให้ตอนนี้ ลิเวอร์พูล ตกเป็นฝ่ายตามหลังไปก่อนในเกมลีกเป็นจำนวน 3 นัดติดต่อกันเข้าไปแล้ว โดย 2 หนก่อนหน้านี้เกิดขึ้นในวันที่พวกเขาชนะ นิวคาสเซิ่ล 3-1 และเสมอกับ สเปอร์ส 2-2 ซึ่งนี่ก็ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2019 ที่ ลิเวอร์พูล ต้องเป็นฝ่ายตามหลังไปก่อนในเกมลีกถึง 3 นัดติดต่อกัน
– การเปิดและสั่งลาปีที่ชอกช้ำ
ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่มีความคงเส้นคงวามากๆ จนถึงขนาดที่ว่าแม้จะต้องลงเล่นในฐานะทีมเยือน แต่พวกเขาก็ยังสามารถผลิตสกอร์ได้อยู่บ่อยๆ โดยจากการลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก ในฐานะทีมเยือนเป็นจำนวน 21 เกมตลอดทั้งปี 2021 นั้น พวกเขาทำประตูไม่ได้เพียงแค่ 2 นัดเท่านั้น
ช่างเหมือนกับตลกร้ายที่ 2 เกมที่ว่านั้นถือเป็น “เกมแรก” และ “เกมสุดท้าย” ของปีฉลู 2021 พอดิบพอดี โดยนัดแรกของปีนี้พวกเขาไปเยือน เซาธ์แฮมป์ตัน เมื่อวันที่ 4 มกราคม แต่ต้องกลับบ้านพร้อมกับสกอร์ 0-1