พรีเมียร์ลีก เวลา : 19.30 น. บอร์นมัธ (20) -vs- ลิเวอร์พูล (5) ราคาบอล : ลิเวอร์พูล ต่อ 1.25(-10)

วิเคราะห์บอล พรีเมียร์ลีก : บอร์นมัธ (20) -vs- ลิเวอร์พูล (5)
สนาม : วิทาลิตี้ สเตเดี้ยม
เวลา : 19.30 น.
ราคาบอล : ลิเวอร์พูล ต่อ 1.25(-10)

ผลการพบกันของทั้งสองทีม

27/08/22 ลิเวอร์พูล ชนะ บอร์นมัธ 9-0
07/03/20 ลิเวอร์พูล ชนะ บอร์นมัธ 2-1
07/12/19 บอร์นมัธ แพ้ ลิเวอร์พูล 0-3
09/02/19 ลิเวอร์พูล ชนะ บอร์นมัธ 3-0
08/12/18 บอร์นมัธ แพ้ ลิเวอร์พูล 0-4
15/04/18 ลิเวอร์พูล ชนะ บอร์นมัธ 3-0
18/12/17 บอร์นมัธ แพ้ ลิเวอร์พูล 0-4
06/04/17 ลิเวอร์พูล เสมอ บอร์นมัธ 2-2
04/12/16 บอร์นมัธ ชนะ ลิเวอร์พูล 4-3
17/04/16 บอร์นมัธ แพ้ ลิเวอร์พูล 1-2

ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม

บอร์นมัธ
04/03/23 แพ้ อาร์เซน่อล 2-3 (เยือน) พรีเมียร์ลีก / รอง 2 … ได้
26/02/23 แพ้ แมนฯซิตี้ 1-4 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / รอง 1.5 … เสีย
18/02/23 ชนะ วูล์ฟส์ 1-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก / รอง 0.5 … ได้
12/02/23 เสมอ นิวคาสเซิ่ล 1-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / รอง 1 … ได้
04/02/23 แพ้ ไบรท์ตันฯ 0-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก / รอง 1.5 … ได้
ฟอร์มเกมเหย้าในลีก แข่ง 12 ชนะ 3 เสมอ 4 แพ้ 5 ได้ 12 เสีย 16

ลิเวอร์พูล
06/03/23 ชนะ แมนฯยู 7-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 0.25 … ได้
02/03/23 ชนะ วูล์ฟส์ 2-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 1 … ได้
26/02/23 เสมอ คริสตัล พาเลซ 0-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 0.75 … เสีย
22/02/23 แพ้ เรอัล มาดริด 2-5 (เหย้า) ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก / ต่อ 0.25 … เสีย
19/02/23 ชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก / รอง 0.25 … ได้
ฟอร์มเกมเยือนในลีก แข่ง 12 ชนะ 3 เสมอ 3 แพ้ 6 ได้ 13 เสีย 19

ฟอร์ม 6 นัดหลังสุดในลีก

บอร์นมัธ
เหย้า – แข่ง 3 ชนะ 0 เสมอ 2 แพ้ 1 ได้ 3 เสีย 6
เยือน – แข่ง 3 ชนะ 1 เสมอ 0 แพ้ 2 ได้ 3 เสีย 4

ลิเวอร์พูล
เหย้า – แข่ง 3 ชนะ 3 เสมอ 0 แพ้ 0 ได้ 11 เสีย 0
เยือน – แข่ง 3 ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 1 ได้ 2 เสีย 3

สภาพทีมล่าสุดของทั้งสองทีม

บอร์นมัธ

          บอร์นมัธ ของกุนซือรักษาการณ์ แกรี่ โอนีล เพิ่งจะบุกพ่ายให้กับ อาร์เซน่อล 2-3 ในลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับความพร้อมของทีมก่อนลงเตะ ไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามาเพิ่มเติม นอกเสียจาก เดวิด บรู๊คส์, จูเนียร์ สตานิสลาส กับ มาติอัส วินญ่า สามแข้งเดี้ยงที่ไม่สามารถลงเล่นได้แน่นอน คาดว่า โอนีล เตรียมวางหมากในระบบ 5-4-1 โดยมี โดมินิก โซลันเก้ ออกสตาร์ทยืนเป้าล่าสกอร์และใช้ เจฟเฟอร์สัน เลอร์มา กับ ฟิลิป บิลลิ่ง ผนึกกำลังกันคุมจังหวะจากแดนกลางตามระเบียบ

ตัวแบน : –
ตัวเจ็บ/หมดสิทธิ์ :
กองหลัง – มาติอัส วินญ่า (2 นัด)
กองกลาง – เดวิด บรู๊คส์ (-), จูเนียร์ สตานิสลาส (4 นัด)

บอร์นมัธ (5-4-1) : เนโต้ – อดัม สมิธ, คริส เมแฟม, แจ็ค สตีเฟ่นส์, มาร์กอส เซเนซี่, จอร์แดน เซมูร่า – ดังโก้ อูอัตตาร่า, เจฟเฟอร์สัน เลอร์มา, ฟิลิป บิลลิ่ง, ฮาเหม็ด ตราโอเร่ – โดมินิก โซลันเก้

ลิเวอร์พูล

          ลิเวอร์พูล ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ เพิ่งจะโชว์โหดเปิดรังทุบ แมนฯยู 7-0 ในลีกช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับความพร้อมของทีมก่อนลงสนาม ไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามาเพิ่มเติม เว้นเสียจาก หลุยส์ ดิอาซ, ธิอาโก้ อัลคานตาร่า และ แคลวิน แรมเซย์ สามแข้งเดี้ยงค้างสต๊อคซึ่งยังไม่หายดี คาดว่า คล็อปป์ เตรียมจัดทัพในระบบเก่ง 4-3-3 โดยมี โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โคดี้ กั๊คโป กับ ดาร์วิน นูนเญซ เป็นสามประสานแดนหน้าคอยล่าสกอร์และใช้ ฟาบินโญ่ รับจ๊อบกลางรับคอยคุมเชิงอยู่ด้านหลังตามสูตร

ตัวแบน : –
ตัวเจ็บ/หมดสิทธิ์ :
กองหลัง – แคลวิน แรมเซย์ (-)
กองกลาง – ธิอาโก้ อัลคานตาร่า (14 นัด)
กองหน้า – หลุยส์ ดิอาซ (8 นัด/3 ประตู)

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซง เบ็คเกอร์ – เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์, ฟาบินโญ่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน – โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โคดี้ กั๊คโป, ดาร์วิน นูนเญซ

ทรรศนะ

          หาก ลิเวอร์พูล สามารถรักษามารตฐานของทีมได้ต่อเนื่อง เชื่อว่าเกมนี้ก็คงไม่มีอะไรยาก เพราะสามประสานแนวรุกกำลังมั่นใจสุดๆ หลังเก็บสกอร์กันไปคนละสองลูกอย่างเหลือเชื่อจากแมตช์ถล่มเอาชนะ แมนฯยู 7-0 นั่นทำให้พวกเขาคว้าชัยไปแล้ว 4 จาก 5 หนท้ายในลีกแบบไม่แพ้ใคร (เสมอ 1) และกดไปเหนาะๆ 13 ประตูชนิดที่ไม่เสียให้ใครเลยแม้แต่ตุงเดียว ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีไม่น้อยกับการลงเตะในพรีเมียร์ลีก สวนทางกับเจ้าบ้าน บอร์นมัธ ที่ปัจจุบันรั้งตำแหน่งบ๊วยของลีก และมีความพยายามเต็มที่ในการดิ้นรนหนีตกชั้น ทว่าการวางหมากเน้นรับเต็มสูบ 5-4-1 ยังไม่สามารถเปลี่ยนผลลัพธ์ให้กลับมาเก็บแต้มได้เลย และยังคงปราชัยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสองแมตช์ท้ายในลีกเสียไปถึง 7 เม็ด แถมนี่จะเป็นการเผชิญหน้ากับงานหินต่อเนื่องเป็นแมตช์ที่สามติดต่อกัน ฉะนั้นดูทรงแล้วไม่น่ารอดอีกตามเคย แนะนำอยู่ต่อเจ้าถิ่นกินนิ่มดีกว่า ฟันธง! จัดหนัก “หงส์แดง”

ฟันธง : “ลิเวอร์พูล ชนะ”