พรีเมียร์ลีก เวลา : 19.30 น. แมนฯซิตี้ (1) -vs- ลิเวอร์พูล (2) ราคาบอล : แมนฯซิตี้ ต่อ 0.75(-10)

วิเคราะห์บอล พรีเมียร์ลีก : แมนฯซิตี้ (1) -vs- ลิเวอร์พูล (2)
สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม
เวลา : 19.30 น.
ราคาบอล : แมนฯซิตี้ ต่อ 0.75(-10)

ผลการพบกันของทั้งสองทีม

01/04/23 แมนฯซิตี้ ชนะ ลิเวอร์พูล 4-1
23/12/22 แมนฯซิตี้ ชนะ ลิเวอร์พูล 3-2 / ลีก คัพ
16/10/22 ลิเวอร์พูล ชนะ แมนฯซิตี้ 1-0
30/07/22 ลิเวอร์พูล ชนะ แมนฯซิตี้ 3-1 / (กลาง) คอมมูนิตี้ ชิลด์
16/04/22 แมนฯซิตี้ แพ้ ลิเวอร์พูล 2-3 / (กลาง) เอฟเอ คัพ
10/04/22 แมนฯซิตี้ เสมอ ลิเวอร์พูล 2-2
03/10/21 ลิเวอร์พูล เสมอ แมนฯซิตี้ 2-2
08/02/21 ลิเวอร์พูล แพ้ แมนฯซิตี้ 1-4
09/11/20 แมนฯซิตี้ เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1
03/07/20 แมนฯซิตี้ ชนะ ลิเวอร์พูล 4-0

ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม

แมนฯซิตี้
13/11/23 เสมอ เชลซี 4-4 (เยือน) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 0.75 … เสีย
08/11/23 ชนะ ยัง บอยส์ 3-0 (เหย้า) ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก / ต่อ 2.75 … ได้ครึ่ง
04/11/23 ชนะ บอร์นมัธ 6-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 2.75 … ได้
29/10/23 ชนะ แมนฯยู 3-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 0.75 … ได้
26/10/23 ชนะ ยัง บอยส์ 3-1 (เยือน) ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก / ต่อ 1.75 … ได้ครึ่ง
ฟอร์มเกมเหย้าในลีก แข่ง 5 ชนะ 5 เสมอ 0 แพ้ 0 ได้ 16 เสีย 3

ลิเวอร์พูล
12/11/23 ชนะ เบรนท์ฟอร์ด 3-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 1.5 … ได้
10/11/23 แพ้ ตูลูส 2-3 (เยือน) ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก / ต่อ 1.25 … เสีย
06/11/23 เสมอ ลูตัน 1-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 2 … เสีย
02/11/23 ชนะ บอร์นมัธ 2-1 (เยือน) ลีก คัพ / ต่อ 1 … เจ๊า
29/10/23 ชนะ ฟอเรสต์ 3-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 1.75 … ได้
ฟอร์มเกมเยือนในลีก แข่ง 6 ชนะ 2 เสมอ 3 แพ้ 1 ได้ 10 เสีย 8

ฟอร์ม 6 นัดหลังสุดในลีก

แมนฯซิตี้
เหย้า – แข่ง 3 ชนะ 3 เสมอ 0 แพ้ 0 ได้ 10 เสีย 2
เยือน – แข่ง 3 ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 1 ได้ 7 เสีย 5

ลิเวอร์พูล
เหย้า – แข่ง 3 ชนะ 3 เสมอ 0 แพ้ 0 ได้ 8 เสีย 0
เยือน – แข่ง 3 ชนะ 0 เสมอ 2 แพ้ 1 ได้ 4 เสีย 5

สภาพทีมล่าสุดของทั้งสองทีม

แมนฯซิตี้

          แมนฯซิตี้ ของกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เพิ่งจะบุกเจ๊าเดือด เชลซี 4-4 ในลีกเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา สำหรับความพร้อมของทีมก่อนฟาดแข้ง จะไม่มีชื่อ มาเตโอ โควาซิช ซึ่งเดี้ยงเข้ามาสดๆ ร้อนๆ สมทบกับ เควิน เดอ บรอยน์, เซร์กิโอ้ โกเมซ และ จอห์น สโตนส์ สามแข้งเดี้ยงหน้าเดิมซึ่งยังไม่หายดี ส่วนทางด้านของ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ที่เจ็บจากโปรแกรมทีมชาติ น่าจะฟิตทันลงบู๊วันนี้ คาดว่า เป๊ป เตรียมวางหมากในระบบ 3-4-2-1 โดยมี ฮาลันด์ ออกสตาร์ทยืนเป้าล่าสกอร์และใช้ ฮูเลี่ยน อัลบาเรซ กับ แบร์นาร์โด้ ซิลวา รับจ๊อบกลางรุกคอยสนับสนุนอยู่ด้านหลังตามสูตร

ตัวแบน : –
ตัวเจ็บ/หมดสิทธิ์ :
กองหลัง – จอห์น สโตนส์ (4 นัด)
กองกลาง – เควิน เดอ บรอยน์ (1 นัด), เซร์กิโอ้ โกเมซ (2 นัด), มาเตโอ โควาซิช (9 นัด)

แมนฯซิตี้ (3-4-2-1) : เอแดร์ซอน โมราเอส – ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล – ฟิล โฟเด้น, โรดริโก้ เอร์นานเดซ, มานูเอล อาคานยี่, เฌเรมี่ โดกู – ฮูเลี่ยน อัลบาเรซ, แบร์นาร์โด้ ซิลวา – เออร์ลิ่ง ฮาลันด์

ลิเวอร์พูล

          ลิเวอร์พูล ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ เพิ่งจะเปิดรังถล่มเอาชนะ เบรนท์ฟอร์ด 3-0 ในลีกช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา สำหรับความพร้อมของทีมก่อนลงสังเวียน ไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามาเพิ่มเติม นอกเสียจาก ธิอาโก้ อัลคานตาร่า, สเตฟาน บายเซติช กับ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน สามแข้งเดี้ยงค้างสต๊อคซึ่งยังไม่หายดี คาดว่า คล็อปป์ เตรียมจัดทัพในระบบ 4-3-3 โดยมี โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, ดาร์วิน นูนเญซ กับ ดิโอโก้ โชต้า เป็นสามประสานแดนหน้าคอยล่าตาข่ายตามระเบียบ

ตัวแบน : –
ตัวเจ็บ/หมดสิทธิ์ :
กองหลัง – แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (8 นัด/1 ประตู)
กองกลาง – ธิอาโก้ อัลคานตาร่า (-), สเตฟาน บายเซติช (-)

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซง เบ็คเกอร์ – เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โฌแอล มาติป, เฟอร์กิล ฟาน ไดย์ค, คอนสแตนตินอส ซิมิกาส – โดมินิค โซโบซไล, อเล็กซิส แม็ก อัลลิสเตอร์, ไรอัน กราเวนเบิร์ช – โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, ดาร์วิน นูนเญซ, ดิโอโก้ โชต้า

ทรรศนะ 

          ถ้าเรตมันสูงกว่านี้ก็คงจะขอเชียร์บอลรองเหมือนกัน ทว่าการเปิดมาไม่ถึงหนึ่งเม็ด นั่นหมายความว่าแค่เจ้าถิ่น แมนฯซิตี้ เข้าวินก็เพียงพอแล้วที่จะรับทรัพย์ ซึ่งการลงเตะใน เอติฮัด สเตเดี้ยม ยิ่งเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้พวกเขากุมความได้เปรียบมากกว่าเดิม ซึ่งผลงานตลอด 4 เกมลีกที่ผ่านมา นอกจากจะไม่แพ้ใครแล้ว (ชนะ 3, เสมอ 1) ยังยิงยับนับไม่ถ้วนกว่า 15 ประตูเลยทีเดียว เอาดีๆ จากทรงดีแนวรับของทีมเยือน ลิเวอร์พูล อาจจะรับไม่ไหวก็เป็นได้ ประกอบกับสถิติในฐานะอาคันตุกะของ “หงส์แดง” ตลอด 3 หนท้ายในลีก ก็ไร้ชัยมาครองโดยสิ้นเชิง (เสมอ 2, แพ้ 1) และโดนทะลวงแนวรับยับเยินร่วมๆ 5 เม็ด เอาจริงๆ ก็รั่วมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ฉะนั้นเมื่อพิจารณาจากเรตกับภาพรวมต่างๆ แนะนำอยู่ต่อไม่ต้องรอลงอาญา ฟันธง! จัดไป “เรือใบสีฟ้า”

ฟันธง : “แมนฯซิตี้ ชนะ 2-1”