พรีเมียร์ลีก เวลา : 22.00 น. เลสเตอร์ (15) -vs- เชลซี (10) ราคาบอล : เชลซี ต่อ 0.5(-10)

วิเคราะห์บอล พรีเมียร์ลีก : เลสเตอร์ (15) -vs- เชลซี (10)
สนาม : คิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม
เวลา : 22.00 น.
ราคาบอล : เชลซี ต่อ 0.5(-10)

ผลการพบกันของทั้งสองทีม

27/08/22 เชลซี ชนะ เลสเตอร์ 2-1
20/05/22 เชลซี เสมอ เลสเตอร์ 1-1
20/11/21 เลสเตอร์ แพ้ เชลซี 0-3
19/05/21 เชลซี ชนะ เลสเตอร์ 2-1
16/05/21 เชลซี แพ้ เลสเตอร์ 0-1 / (กลาง) เอฟเอ คัพ
20/01/21 เลสเตอร์ ชนะ เชลซี 2-0
28/06/20 เลสเตอร์ แพ้ เชลซี 0-1 / เอฟเอ คัพ
01/02/20 เลสเตอร์ เสมอ เชลซี 2-2
18/08/19 เชลซี เสมอ เลสเตอร์ 1-1
12/05/19 เลสเตอร์ เสมอ เชลซี 0-0

ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม

เลสเตอร์
05/03/23 แพ้ เซาท์แฮมป์ตัน 0-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก / เสมอ … เสีย
01/03/23 แพ้ แบล็คเบิร์น 1-2 (เหย้า) เอฟเอ คัพ / ต่อ 1.25 … เสีย
25/02/23 แพ้ อาร์เซน่อล 0-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / รอง 1 … เจ๊า
19/02/23 แพ้ แมนฯยู 0-3 (เยือน) พรีเมียร์ลีก / รอง 1 … เสีย
11/02/23 ชนะ สเปอร์ส 4-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / รอง 0.5 … ได้
ฟอร์มเกมเหย้าในลีก แข่ง 12 ชนะ 3 เสมอ 3 แพ้ 6 ได้ 15 เสีย 14

เชลซี
08/03/23 ชนะ ดอร์ทมุนด์ 2-0 (เหย้า) ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก / ต่อ 0.75 … ได้
04/03/23 ชนะ ลีดส์ 1-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 1 … เจ๊า
26/02/23 แพ้ สเปอร์ส 0-2 (เยือน) พรีเมียร์ลีก / เสมอ … เสีย
18/02/23 แพ้ เซาท์แฮมป์ตัน 0-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 1.25 … เสีย
16/02/23 แพ้ ดอร์ทมุนด์ 0-1 (เยือน) ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก / รอง 0.25 … เสีย
ฟอร์มเกมเยือนในลีก แข่ง 13 ชนะ 3 เสมอ 4 แพ้ 6 ได้ 10 เสีย 17

ฟอร์ม 6 นัดหลังสุดในลีก

เลสเตอร์
เหย้า – แข่ง 3 ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 1 ได้ 6 เสีย 4
เยือน – แข่ง 3 ชนะ 1 เสมอ 0 แพ้ 2 ได้ 4 เสีย 6

เชลซี
เหย้า – แข่ง 3 ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 1 ได้ 1 เสีย 1
เยือน – แข่ง 3 ชนะ 0 เสมอ 2 แพ้ 1 ได้ 1 เสีย 3

สภาพทีมล่าสุดของทั้งสองทีม

เลสเตอร์

          เลสเตอร์ ของกุนซือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เพิ่งจะบุกพ่ายให้กับ เซาท์แฮมป์ตัน 0-1 ในลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับความพร้อมของทีมก่อนฟาดแข้ง จะไร้เงา วิกเตอร์ คริสเตียนเซ่น แนวรับตัวใหม่ที่เจ็บข้อเท้าในระหว่างซ้อม สมทบกับพวก ยูรี่ ตีเลอม็องส์ และ เจมส์ จัสติน สองตัวเจ็บที่ไม่สามารถลงเล่นได้เช่นกัน คาดว่า ร็อดเจอร์ส เตรียมวางหมากในระบบ 4-2-3-1 โดยมี เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ออกสตาร์ทยืนเป้าล่าสกอร์และใช้ เตเต้, เจมส์ แม็ดดิสัน กับ เดนนิส ปราเอ้ต์ เป็นสามประสานกลางรุกคอยสนับสนุนอยู่ด้านหลังตามสูตร

ตัวแบน : –
ตัวเจ็บ/หมดสิทธิ์ :
กองหลัง – เจมส์ จัสติน (14 นัด), วิกเตอร์ คริสเตียนเซ่น (4 นัด)
กองกลาง – ยูรี่ ตีเลอม็องส์ (23 นัด/3 ประตู)

เลสเตอร์ (4-2-3-1) : แดนนี่ วอร์ด – ริคาร์โด้ เปไรร่า, แฮร์รี่ ซูตต้าร์, วู้ต ฟาเอส, ติโมธี่ กาสตาญ – เคียร์แนน ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์, นัมปาลิส เม็นดี้ – เตเต้, เจมส์ แม็ดดิสัน, เดนนิส ปราเอ้ต์ – เคเลชี่ อิเฮียนาโช่

เชลซี

          เชลซี ของกุนซือ เกรแฮม พ็อตเตอร์ เพิ่งจะเปิดรังเอาชนะ ดอร์ทมุนด์ 2-0 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับความพร้อมของทีมก่อนลงสนาม จะไม่มีชื่อ อาร์มันโด้ โบรย่า, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, ธิอาโก้ ซิลวา กับ เอดูอาร์ ม็องดี้ สี่แข้งเดี้ยงที่ไม่สามารถใช้งานได้ยกแพ็ค คาดว่า พ็อตเตอร์ เตรียมจัดทัพในระบบ 3-4-3 โดยมี ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, ไค ฮาแวร์ตซ์ กับ เชา เฟลิกซ์ เป็นสามประสานแดนหน้าคอยล่าตาข่ายและใช้ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ กับ มาเตโอ โควาซิช ปักหลักคุมเชิงจากแดนกลางตามระเบียบ

ตัวแบน : –
ตัวเจ็บ/หมดสิทธิ์ :
ผู้รักษาประตู – เอดูอาร์ ม็องดี้ (9 นัด)
กองหลัง – ธิอาโก้ ซิลวา (21 นัด)
กองกลาง – เอ็นโกโล่ ก็องเต้ (2 นัด)
กองหน้า – อาร์มันโด้ โบรย่า (12 นัด/1 ประตู)

เชลซี (4-2-3-1) : เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า – เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, คาลิดู คูลิบาลี่, เบอนัวต์ บาดิยาชิเล่ – รูเบน ลอฟตัส-ชี๊ค, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, มาเตโอ โควาซิช, เบ็น ชิลเวลล์ – ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, ไค ฮาแวร์ตซ์, เชา เฟลิกซ์ – ไค ฮาแวร์ตซ์

ทรรศนะ

          น่าจะเป็นช่วงที่แฟนบอล เชลซี ได้ใจชื้นมากขึ้น หลังคว้าชัยรวด 2 หนท้ายทุกรายการแบบไม่เสียเลยแม้แต่ตุงเดียว ดูเหมือนว่ากุนซือ เกรแฮม พ็อตเตอร์ จะเริ่มจูนเครื่องขุมกำลังเก่ากับใหม่เข้ากันได้มากขึ้นแล้ว แถมสถานการณ์ในตาราง ณ เวลานี้ก็ต้องรีบเร่งเครื่องเพื่อโอกาสลุ้นพื้นที่ไปลุยยุโรปซีซั่นหน้า เชื่อว่าพวกเขาเล่นใหญ่ใส่เต็มกันแน่นอน สอดคล้องกับเจ้าถิ่น เลสเตอร์ ยังอาการน่าเป็นห่วง หลังปราชัยรวด 4 หนท้ายทุกรายการ และโดนถลุงตาข่ายตายอนาถกว่า 7 ตุง แถมเป็นสี่นัดที่พวกเขาเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานแทบทุกเกม ซึ่งการหายไปของ ยูรี่ ตีเลอม็องส์ ยิ่งทำให้แดนกลางของ “จิ้งจอกสยาม” ขาดห้องเครื่องคอยเชื่อมเกม ฉะนั้นเปอร์เซ็นต์ที่อาคันตุกะจะบุกเอาชนะมีสูง เมื่อพิจารณาจากเรตกับภาพรวมต่างๆ แนะนำอยู่ต่อไม่ง้อดวง ฟันธง! จัดเต็ม “สิงห์บลูส์”

ฟันธง : “เชลซี ชนะ”