ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัด 2) เวลา : 02:00 น. ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) -VS- เรอัล มาดริด (สเปน) เรตราคา : ลิเวอร์พูล ต่อ 0.5

วันพุธที่ 14 เมษายน 2564

ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัด 2)

ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) -VS- เรอัล มาดริด (สเปน)

เวลา : 02:00 น.

สนาม : แอนฟิลด์ (ลิเวอร์พูล – อังกฤษ)

ถ่ายทอดสด : UEFA.tv

เรตราคาไทย : ลิเวอร์พูล ต่อ 0.5

ผลการพบกันทั้ง 2 ทีม

11/03/09 ลิเวอร์พูล 4-0 เรอัล มาดริด (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
23/10/14 ลิเวอร์พูล 0-3 เรอัล มาดริด (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
05/11/14 เรอัล มาดริด 1-0 ลิเวอร์พูล (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
27/05/18 เรอัล มาดริด 3-1 ลิเวอร์พูล (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
06/04/21 เรอัล มาดริด 3-1 ลิเวอร์พูล (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)

ผลงาน 5 นัดหลังสุด

ลิเวอร์พูล (อังกฤษ)
10/03/21 ชนะ ไลป์ซิก 2-0 (เหย้า, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
15/03/21 ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-0 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
03/04/21 ชนะ อาร์เซน่อล 3-0 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
06/04/21 แพ้ เรอัล มาดริด 1-3 (เยือน, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
10/04/21 ชนะ แอสตัน วิลล่า 2-1 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)

เรอัล มาดริด (สเปน)
16/03/21 ชนะ อตาลันต้า 3-1 (เหย้า, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
20/03/21 ชนะ เซลต้า บีโก้ 3-1 (เยือน, ลา ลีกา)
03/04/21 ชนะ เออิบาร์ 2-0 (เหย้า, ลา ลีกา)
06/04/21 ชนะ ลิเวอร์พูล 3-1 (เหย้า, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
10/04/21 ชนะ บาร์เซโลน่า 2-1 (เหย้า, ลา ลีกา)

สภาพทีมโดยทั่วไป

ลิเวอร์พูล (อังกฤษ)
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล เกมนี้ยังมีปัญหานักเตะบาดเจ็บทั้ง เวอร์จิล ฟาน ไดค์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, โฌแอล มาติป และ โจ โกเมซ ส่วน ดิว็อค โอริกี้ กับ เคอร์ติส โจนส์ ต้องเช็คความฟิต การจัดทัพในระบบ 4-3-3 จะส่ง ติอาโก้ อัลกันตาร่า เป็นเพียงสำรองในนัดแรกลงเดินเกมในแดนกลางกับ จอร์จินิโอ ไวนัลดุม กับ ฟาบินโญ่ ส่วนตำแหน่งอื่นยังประจำการด้วย โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่, ดีโอโก้ โชต้า, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, โอซาน คาบัค และ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ พร้อมมี โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, เจมส์ มิลเนอร์, เซอร์ดาน ชากิรี่, อเล็กซ์ ออกซ์เลด-แชมเบอร์เลน และ นาบี เกอิต้า เป็นกำลังสำรอง

เรอัล มาดริด (สเปน)
ด้านทีมเยือน เรอัล มาดริด เพิ่งเสีย ลูกัส บาซเกซ ไปจากอาการบาดเจ็บ ด้าน เซร์คิโอ รามอส กับ ราฟาแอล วาราน ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่วน ดานี่ การ์บาฆาล กับ เอแด็น อาซาร์ หายเจ็บกลับมาซ้อมแล้ว แต่ยังไม่ฟิตพร้อมคืนสนาม การจัดทีมอาจเปลี่ยนแผนจาก 4-1-4-1 ในศึก “เอล กลาซิโก้” กลับมาเล่น 4-3-3 และส่ง มาร์โก อาเซนซิโอ กับ อัลบาโร่ โอดริโอโซล่า ลงเป็นตัวจริงพร้อม คาริม เบนเซม่า, ลูก้า โมดริช, โทนี่ โครส, คาร์ลอส คาเซมิโร่, นาโช่ เฟร์นานเดซ, เอแดร์ มิลิเตา และ วีนิซิอุส จูเนียร์ โดยมี อิสโก้, เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้, มาเรียโน่ ดิอาซ, มาร์เซโล่ และ โรดริโก้ โกเอส เป็นตัวสอดแทรก

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

ลิเวอร์พูล (อังกฤษ)
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โอซาน คาบัค, นาธาเนียล ฟิลลิปส์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – ฟาบินโญ่, ติอาโก้ อัลกันตาร่า, จอร์จินิโอ ไวนัลดุม – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่, ดีโอโก้ โชต้า

เรอัล มาดริด (สเปน)
เรอัล มาดริด (4-3-3) : ติโบต์ กูร์กตัวส์ – อัลบาโร่ โอดริโอโซล่า, เอแดร์ มิลิเตา, นาโช่ เฟร์นานเดซ, แฟร์กล็องด์ เมนดี้ – คาร์ลอส คาเซมิโร่, โทนี่ โครส, ลูก้า โมดริช – มาร์โก อาเซนซิโอ, วีนิซิอุส จูเนียร์, คาริม เบนเซม่า

ความน่าจะเป็นของเกม

ลิเวอร์พูล ฟอร์มช่วงหลังยังเล่นได้ดีมากด้วยการกลับมาเข้าวินในเกมล่าสุด ทำให้สามารถเก็บชัยรวม 4 จาก 5 นัดหลัง และแพ้เกมเดียวจากการลงสนาม 5 นัดที่ผ่านมา พร้อมเกมรับ-รุกกำลังกลับมาต่อกันติด และเกมเหย้าในแชมเปี้ยนส์ ลีก กลับมาทำได้ดีมากอีกครั้ง ส่วนทางด้าน มาดริด ฟอร์มระยะหลังดีเยี่ยมสม่ำเสมอกับการเดินหน้าซิวชัยเรียบ 6 เกมหลังสุด พร้อมเกมรับ-รุกประสานงานลงตัว และหวังผลได้เสมอ ทำให้สามารถกอบโกยชัย 11 เกมจาก 13 นัดหลัง พ่วงผลงานไร้พ่ายตลอด 13 นัดที่ผ่านมา ส่วนเกมเยือนในแชมเปี้ยนส์ ลีก ยังทำได้ดีมาก ทำให้แมตช์นี้ “ราชันชุดขาว” กำลังอยู่ในโมเมนตัมที่ดี และเก๋าเกมยูซีแอลจะบุกมาเก็บผลเสมอจาก “หงส์แดง” กลับออกไปได้