ถือว่าเป็นทีมที่เสริมทัพได้น่ากลัวมากๆ สำหรับ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี สโมสรแกร่งแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ หลังจัดการคว้านักเตะใหม่มาแล้ว 6 ราย บางคนมีค่าตัวไม่ธรรมดา แถมยังมีฝีเท้าจัดจ้านสุดขีด เหมาะที่จะพาทีมเข้าสู่ยุคใหม่ภายใต้การคุมทัพของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ที่ได้งบประมาณก้อนโตจาก “เสี่ยหมี” โรมัน อบราโมวิช เจ้าของทีมชาวรัสเซีย ที่ทุ่มเงินมหาศาลพร้อมตั้งเป้าหมายลุ้นยกถ้วยแชมป์รายการใหญ่ เรามาทำความรู้จัก 6 แข้งใหม่ของ “สิงห์บลู” กันได้เลย
1. ฮาคิม ซิเยค
ตำแหน่ง: กองกลางตัวรุก, ปีก
ย้ายมาจากทีม: อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม
ค่าตัว: 40 ล้านยูโร
ปีกจอมเทคนิคดีกรีทีมชาติโมร็อกโก วัย 27 ปี เกิดที่ดรอนเทน ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 1993 เริ่มต้นระดับเยาวชนกับทีมเรียอัล ดรอนเทน ในปี 2001-2004 จากนั้นไปอยู่กับ เอเอสวี ดรอนเทน อีก 3 ปี ต่อด้วย ฮีเรนวีน ชุดเยาวชน อีก 5 ปี และก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของ ฮีเรนวีน ได้สำเร็จในปี 2012 และย้ายไปอยู่กับ เอฟซี ทเวนเต อีก 2 ปี จากนั้นปี 2016 ก้าวสำคัญของเขาก็มาถึงเมื่อได้มาอยู่กับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ซึ่งเป็นทีมที่เขาโชว์ฟอร์มได้เปรี้ยงปร้างที่สุด กดไป 49 ประตู จากการลงเล่น 165 นัดรวมทุกรายการ ตลอดระยะเวลา 4 ปีกับสโมสร ฤดูกาลล่าสุดทำไป 8 ประตู กับ 21 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 35 นัดรวมทุกรายการ นอกจากนี้ยังเคยคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสรถึง 3 ฤดูกาล ซึ่งจากฟอร์มอันโดดเด่นทำให้ เชลซี ตัดสินใจคว้าตัวเขามาเสริมทัพเป็นรายแรกในยุคการคุมทีมของ แฟรงค์ แลมพาร์ด
จุดเด่น: ซิเยค เป็นนักเตะที่มีความสามารถเฉพาะตัวสูง ชอบเล่นเกมรุก มีความเร็ว เลี้ยงกินตัวได้ดี ยิงจากแถวสองได้ลุ้นตลอด และที่สำคัญคือสามารถสร้างโอกาสในการทำประตู และเปิดบอลค่อนข้างแม่นยำ ฟรีคิกก็ยิงได้เช่นกัน
2. ติโม แวร์เนอร์
ตำแหน่ง:กองหน้า
ย้ายมาจากทีม: แอร์เบ ไลป์ซิก
ค่าตัว: 47.5 ล้านปอนด์
ยอดดาวยิงทีมชาติเยอรมนี วัย 24 ปี เจ้าของส่วนสูง 180 เซนติเมตร เกิดที่เมือง สตุ๊ตการ์ท ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 6 มีนาคม ปี 1996 เริ่มต้นกับทีมเยาวชนของสตุ๊ตการ์ท ในปี 2002 ก่อนที่ปี 2013 จะได้รับโอกาสให้ขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ และประเดิมนัดแรกกับทีมม้าขาวด้วยวัยเพียง 17 ปีเท่านั้น ก่อนจะอยู่กับทีมจนถึงปี 2016 รวมแล้วเขาลงเล่นให้สตุ๊ตการ์ท ไป 95 นัด ซัดไป 13 ประตู และเมื่อทีมต้องตกชั้นจากศึกบุนเดสลีกา เขาจึงถูกทีมแอร์เบ ไลป์ซิก ดึงตัวมาเสริมความเฉียบคมในแนวรุก และยังคงโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น ฤดูกาลแรกของเขากับทีมซัดไปถึง 21 ประตู รวมทุกรายการ จากนั้นฤดูกาล 2017-18 ยิงไปอีก 21 ประตู, ฤดูกาล 2018-19 กระหน่ำไป 19 ประตู และฤดูกาล 2019-20 กดไป 34 ประตู รวมแล้วลงเล่นให้ ไลป์ซิก ไปทั้งสิ้น 159 นัด ซัดไป 95 ประตู ส่งผลให้ผลงานของเขาไปเข้าตาทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล และมีข่าวเชื่อมโยงกันอย่างยาวนาน แต่สุดท้ายกลายเป็น “สิงโตน้ำเงินคราม” ที่ยอมทุ่มเงิน 47.5 ล้านปอนด์ คว้าตัวเขามาร่วมทีมได้อย่างสุดเซอร์ไพรส์ และถือเป็นการเสริมทัพรายที่สองในช่วงซัมเมอร์ของเชลซี
จุดเด่น: เป็นแนวรุกที่มีความหลากหลาย นอกจากกองหน้าตัวเป้าแล้วยังสามารถโยกไปเล่นริมเส้นซ้าย-ขวา รวมถึงถอยไปเป็นเพลย์เมกเกอร์ไ้ด้ด้วยด้วยเช่นกัน เป็นผู้เล่นที่มีความเร็วสูง เล่นเกมโต้กลับได้ดี และมีการทำประตูอันสุดเฉียบคมและหวังผลได้ นอกจากนี้ยังเป็นนักเตะที่ไม่เห็นแก่ตัว เมื่อเพื่อนร่วมทีมอยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่าเขาก็พร้อมจะผ่านบอลไปให้อย่างไม่ลังเล
3. ไค ฮาเวิร์ตซ์
ตำแหน่ง: กองกลาง
ย้ายมาจากทีม: ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน
ค่าตัว: 62 ล้านปอนด์
อีกดาวเตะดีกรีทีมชาติเยอรมนี วัย 24 ปี เจ้าของส่วนสูง 189 เซนติเมตร เกิดที่เมืองอาเคน ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน ปี 1999 เริ่มต้นระดับเยาวชนกับทีม อเลมานเนีย มาเรียดอร์ฟ ในปี 2003-2009 จากนั้นไปอยู่กับ อเลมานเนีย อาเคน ในปี 2009-20 ต่อด้วยมาอยู่กับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ช่วงปี 2010-2017 และก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของ เลเวอร์คูเซน เมื่อปี 2016 โดยตลอดระยะเวลา 4 ฤดูกาลกับ “ห้างขายยา” ชุดใหญ่ เขาซัดไปทั้งสิ้น 46 ประตู จากการลงเล่น 150 นัด ทำให้ตกเป็นข่าวได้รับความสนใจจากหลายสโมสรทั่วยุโรป แต่สุดท้ายเป็น เชลซี ที่เข้าวินดึงตัวมาได้ด้วยค่าตัวเบื้องต้น 62 ล้านปอนด์ และอาจพุ่งไปถึง 71 ล้านปอนด์ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่ตกลงกัน
จุดเด่น: เป็นมิดฟิลด์ที่เล่นได้ 2 เท้า มีการผ่านบอลที่แม่นยำและหวังผลได้ เพื่อนร่วมทีมสามารถฝากบอลไว้ที่เขาเพื่อสร้างสรรค์เกมรุก นอกจากนี้การสอดขึ้นมาทำประตูก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่เขาทำได้ดี ส่วนเรื่องเทคนิคเฉพาะตัวและการเล่นกับบอลก็ทำได้อย่างเนียนตาซึ่งเราจะได้เห็นลีลาของเขาเต็มตาในพรีเมียร์ลีกว่าจะเด็ดดวงเหมือนตอนค้าแข้งที่เยอรมนีหรือไม่
4. ติอาโก ซิลวา
ตำแหน่ง: กองหลัง
ย้ายมาจากทีม: เพิ่งหมดสัญญากับ ปารีส แซงต์ แชร์แมง
ค่าตัว: ฟรี
ถือเป็นสุดยอดกองหลังอีกคนหนึ่งของวงการลูกหนังสำหรับ ติอาโก ซิลวา แนวรับประสบการณ์สูงดีกรีทีมชาติบราซิลวัย 35 ปี เจ้าของส่วนสูง 183 เซนติเมตร เกิดวันที่ 22 กันยายน 1984 โดยเขาเริ่มต้นระดับเยาวชนกับทีมฟลูมิเนนเซ ในปี 1998-2000 จากนั้นไปอยู่กับ บาร์เซโลนา-อาร์เจ 1 ปี และกลับมาอยู่กับฟลูมิเนนเซในปี 2001 ส่วนเส้นทางอาชีพค้าแข้งเริ่มต้นกับ rs futebol clube ในปี 2002-2003 จากนั้นไปอยู่กับ ยูเวตูเด, ปอร์โต (บี), ดินาโม มอสโก, ฟลูมิเนนเซ ก่อนที่ปี 2009 จะได้ไปอยู่กับหนึ่งในยอดทีมของกัลโช เซเรีย อา อิตาลี อย่าง “ปิศาจแดงดำ” เอซี มิลาน ช่วยทีมคว้าแชมป์ เซเรีย อา 1 สมัย จากนั้นปี 2012 ย้ายไปค้าแข้งที่ฝรั่งเศสกับ ปารีส แซงต์ แชร์แมง ตามลำดับ โดยกับเปแอสเชนั้นเป็นทีมที่เขาประสบความสำเร็จมากที่สุด คว้าแชมป์ลีก เอิง ถึง 7 สมัย อย่างไรก็ตามหลังจากหมดสัญญากับทีมในช่วงซัมเมอร์ 2020 ทำให้เขากลายเป็นนักเตะฟรีเอเย่นต์ก่อนจะมาลงเอยเซ็นสัญญากับ เชลซี ด้วยสัญญา 1 ปี พร้อมด้วยออปชั่นสามารถขยายสัญญาได้อีก 12 เดือน
จุดเด่น: ถือเป็นปราการหลังที่แข็งแกร่งทั้งบนพื้นและลูกกลางอากาศ จนได้รับฉายา “สัตว์ประหลาด” จากสื่อประเทศบราซิลและฝรั่งเศส เขายังมีความนิ่งและมีเทคนิคการเล่นบอลจากตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก รวมทั้งประสบการณ์เปี่ยมล้นในฟุตบอลระดับสูงสุด ดาวเตะรายนี้เคยสวมปลอกแขนกัปตันทีมปารีส แซงต์-แชร์แมง, เอซี มิลาน และทีมชาติบราซิล ทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่มีความเป็นผู้นำสูงมาก และน่าจะเข้ามาช่วยยกระดับแผงหลังของเชลซีให้มีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น
5. เบน ชิลเวลล์
ตำแหน่ง: แบ็กซ้าย
ย้ายมาจากทีม:เลสเตอร์ ซิตี้
ค่าตัว: 50 ล้านปอนด์
แบ็กซ้ายดีกรีทีมชาติอังกฤษ วัย 23 ปี เกิดในมิลตัน คีย์นส์ เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ปี 1996 เขาเริ่มต้นเล่นให้สโมสรรัชเดน แอนด์ ไดอามอนด์ จากนั้นพออายุ 12 ปี ก็จรดปากกาเซ็นสัญญากับระบบเยาวชนของเลสเตอร์ ซิตี้ ก่อนจะทะยานขึ้นสู่ทัพจิ้งจอกสยามชุดใหญ่เมื่อปี 2015 ก่อนจะถูกปล่อยให้ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ยืมตัวไปใช้งานเมื่อซีซั่น 2015-16 จากนั้นก็กลับมาช่วยทีมแบบยาวๆ โดยฤดูกาลล่าสุดในถิ่นคิง เพาเวอร์ สเตเดียม เขาลงสนามให้ไปทั้งหมด 33 นัด ยิงไป 3 ประตู พา เลสเตอร์ ซิตี้ จบอันดับที่ 5 ของตารางพรีเมียร์ ลีก รวมแล้วลงเล่นให้ เลสเตอร์ ซิตี้ ไปทั้งสิ้น 132 นัด ซัดไป 4 ประตู ก่อนล่าสุดจะย้ายมาร่วมทัพ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ด้วยค่าตัว 50 ล้านปอนด์
จุดเด่น: ชิลเวลล์ เป็นฟูลแบ็กสมัยใหม่ เรี่ยวแรงดีวิ่งขึ้นสุดลงสุด นอกจากนี้ยังมีเทคนิคที่ยอดเยี่ยมและความสามารถในการช่วยเกมรับด้วยความเร็วยามที่ทีมโดนสวนกลับ มีความเยือกเย็นในการเข้าสกัดบอล ยืนตำแหน่งดี แต่ก็มีความดุดันยามต้องเล่นเกมรุก การดวลตัวต่อตัวกับบรรดาผู้เล่นความเร็วสูงก็ทำได้ยอดเยี่ยม และแม้จะมีความสูงเพียง 178 เซนติเมตร แต่กลับเล่นลูกกลางอากาศได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ ถือเป็นอีกการเสริมทัพที่ถูกจุดของ แฟรงค์ แลมพาร์ด
6. มาล็อง ซาร์
ตำแหน่ง: กองหลัง, แบ็กซ้าย
ย้ายมาจากทีม: เพิ่งหมดสัญญากับ นีซ
ค่าตัว: ฟรี
ปราการหลังดาวรุ่งชาวฝรั่งเศส วัย 21 ปี เจ้าของส่วนสูง 183 เซนติเมตร เริ่มต้นระดับเยาวชนกับ นีซ ในปี 2005-2015 ก่อนจะก้าวขึ้นสู่ทีมชุดบีช่วงปี 2015-2017 และขึ้นสู่ชุดใหญ่ในปี 2016 จากนั้นก็เป็นปราการหลังคนสำคัญของ นีซ มาโดยตลอด ฤดูกาลล่าสุดลงเล่นไป 20 นัด ทำไป 1 ประตู แต่ถ้ารวมทั้งหมดในการค้าแข้งกับ นีซ เขาลงสนามไป 119 นัด ยิงไป 3 ประตู โดยเจ้าตัวเพิ่งหมดสัญญากับสโมสรดังของลีก เอิง ในซัมเมอร์นี้ และตกลงย้ายมาร่วมทีม “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี เซ็นสัญญาร่วมงานกัน 5 ปี แต่จะถูกปล่อยให้ทีมอื่นยืมตัวตลอดฤดูกาล 2020-21 นี้ เพื่อเก็บประสบการณ์ผ่านเกมการแข่งขัน เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าร่วมทีมชุดใหญ่ของเชลซี
จุดเด่น: ตำแหน่งหลักของ ซาร์ คือเซ็นเตอร์แบ็ก แต่เขาสามารถโยกไปยืนเป็นแบ็กซ้ายได้ด้วย ทำได้ดีในการขึ้นเกมจากแดนหลัง ผ่านบอลได้ดี และมีการเคลื่อนที่ที่ยอดเยี่ยม และที่สำคัญเข้าสกัดบอลได้แม่นยำมากๆ มักจะอยู่ถูกที่ถูกเวลาอยู่เสมอ จึงทำให้ช่วยทีมเก่ารอดพ้นการเสียประตูได้หลายครั้ง นอกจากนี้ยังมีสัมผัสบอลแรกที่ดีอีกด้วย
น่าจับตามองจริงๆ สำหรับ เชลซี ในฤดูกาล 2020-21 ที่กำลังจะมาถึง เชื่อว่าพวกเขาจะก้าวขึ้นมาท้าชิงแชม์พรีเมียร์ลีกกับบรรดาทีมแกร่งๆ อย่าง ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้อย่างแน่นอน เพราะแต่ละจุดที่ แฟรงค์ แลมพาร์ด ดึงนักเตะใหม่เข้ามานั้นถือเป็นตำแหน่งที่ทีมมีปัญหาจากฤดูกาลที่ผ่านมา และปัญหานั้นก็ได้รับการแก้ไขแล้ว ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับฟอร์มของผู้เล่นแต่ละคนว่าจะทำได้ตามที่สโมสรคาดหวังหรือไม่ ส่วนในเวทียูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ก็มีความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะผ่านเข้าสู่รอบลึกๆ คงต้องมาติดตามกันต่อไป
เรื่อง: PUNABBEY
กราฟิก: Supassara Taiyansuwan
ภาพ:@ChelseaFC
Credit : https://www.thairath.co.th/