มีตาหามีแววไม่เมื่อมีการเปิดถึงสาเหตุที่ “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” เมินคว้าตัว “เวอร์จิล ฟานไดค์” เป็นเพราะพวกเขาหันไปเลือกคว้าตัว “วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ” เข้ามาแทน
วันที่ 19 พ.ย. 64 มีตาหามีแววไม่เมื่อ ชาร์ลี ออสติน กองหน้าจาก “คิวพีอาร์” ควีนพาร์ค เรนเจอร์ส ออกมาเปิดเผยว่าสาเหตุที่ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมินคว้า เวอร์จิล ฟานไดค์ ปราการหลังชาวเนเธอร์แลนด์ นั่นเป็นเพราะว่าพวกเขาตัดสินใจเลือก เซ็นสัญญากับ วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ กองหลังจาก เบนฟิกา แทนนั่นเอง
เป็นที่เข้าใจกันว่า ยอดทีมสีแดงแห่งเมืองแมนเชสเตอร์ คว้าตัว วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ มาจาก เบนฟิกา เมื่อช่วงซัมเมอร์ 2017 ด้วยค่าตัว 30.7 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 1,350 ล้านบาท ในยุค โชเซ มูรินโญ อดีตกุนซือของทีมชาวโปรตุเกส ก่อนที่ เวอร์จิล ฟานไดค์ จะย้ายจาก “นักบุญแดนใต้” เซาแธมป์ตัน ไปร่วมทัพ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เมื่อเดือนมกราคมปี 2018 ด้วยค่าตัว 75 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 3,298 ล้านบาท ก่อนสถาปนาเป็นกองหลังที่ดีที่สุดคนหนึ่งของโลกในเวลานี้ ส่วนรายแรกฟอร์มไม่คงเส้นคงวาแถมดูเหมือนจะเสียตำแหน่งตัวจริงให้กับ ราฟาเอล วาราน ไปแล้ว
ล่าสุด ชาร์ลี ออสติน ออกมากล่าวว่า “ผมจำได้นะ มีอยู่ครั้งหนึ่งตอนที่เขาเล่นให้กับ เซาแธมป์ตัน ทั้งเขาและผมเป็นตัวสำรองในเกมที่บุกไปเยือน เชลซี ผมถามเขาว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สนใจในตัวนายใช่มั้ย เขาก็ตอบกลับมาว่านายก็รู้นี่ว่าตอนนี้มันคือฉันกับเขา (วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ) และพวกเขาก็คว้าตัว วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ แล้วจึงถามกลับไปว่านายล้อฉันเล่นหรือเปล่าเนี่ย แต่เขาก็ไม่ตอบและก็ไม่มีใครรู้เรื่องนั้นอีกเลย”