กองหลังลิเวอร์พูล ผู้หยุดยั้ง เออร์ลิง ฮาลันด์ ได้อีกครั้ง เผย 4 ปัจจัยที่ทำให้ แมนฯ ซิตี้ แพ้นัดแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้
วันที่ 17 ตุลาคม 2565 ควันหลงฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่เอกประจำสัปดาห์ ซึ่ง ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเฉือนชนะ “แชมป์เก่า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปแบบสนุก 1-0 จากประตูชัยของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ในนาทีที่ 76 ทำให้ “หงส์แดง” ชนะครั้งที่ 3 ในฤดูกาลนี้ เก็บเพิ่มเป็น 13 คะแนน ขึ้นมาอยู่อันดับ 8 ส่วน “เรือใบสีฟ้า” แพ้หนแรกในซีซั่นนี้ มี 23 แต้มเท่าเดิม ตามหลังจ่าฝูง อาร์เซนอล เพิ่มเป็น 4 คะแนน
เกมนี้ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ถือเป็น 1 ในผู้เล่นคนสำคัญที่ช่วยให้ ลิเวอร์พูล หยุดยั้ง เออร์ลิง ฮาลันด์ จนยิงประตูไม่ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 11 นัดหลังสุดได้สำเร็จ ยัดเยียดความปราชัยนัดแรกในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ให้กับ แมนฯ ซิตี้ และยังทำให้ดาวยิงทีมชาตินอร์เวย์แผลงฤทธิ์ไม่ออกในการพบกันครั้งที่ 2 อีกด้วย หลังจากเคยจัดการอยู่หมัดมาแล้วในศึกคอมมูนิตี ชิลด์ เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ซึ่ง “หงส์แดง” ชนะ “เรือใบสีฟ้า” 3-1
ด้าน ฟาน ไดค์ ให้สัมภาษณ์หลังจบเกม พร้อมเผย 4 ปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ชนะ แมนฯ ซิตี้ ในเกมนี้ว่า “เป็นเรื่องดีที่เราได้ 3 แต้ม มันเป็นเกมที่เข้มข้นมากเสมอ นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา วันนี้ก็เช่นกัน ครึ่งแรกผมคิดว่าเราเล่นได้ค่อนข้างดี ไม่ผิดพลาดมากนัก แต่ครึ่งหลังเราต้องตั้งรับมากขึ้น และเรามีโอกาสหลายครั้งจากการสวนกลับเพื่อทำประตูมากกว่านี้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเราชนะ”
“(4 ปัจจัยที่ช่วยให้ชนะ แมนฯ ซิตี้) มันเป็นเกมที่เข้มข้นสำหรับทั้งสองทีม สิ่งสำคัญคือ มันต้องวิ่งเยอะมาก, มีการสื่อสารกันมากๆ, แสดงออกถึงความต้องการเป็นผู้ชนะ และแน่นอนว่าผมคิดว่าวันนี้เราแสดงให้เห็นถึงการต่อสู้อย่างเต็มที่ในหลายๆ ครั้ง”
“(จังหวะโหม่งสกัดก่อนโดน ฮาลันด์ เข้าทำประตูในนาทีที่ 82) นั่นคือสิ่งที่กองหลังทุกคนต้องทำอยู่แล้ว ผมอยู่ตรงนั้นและพยายามไปให้ถึงบอลก่อนเขา โชคดีที่ผมถึงบอลก่อนและป้องกันไว้ได้สำเร็จ นั่นคือสิ่งที่คุณต้องทำในทุกๆ เกม เห็นได้ชัดว่าวันนี้ถ้าคุณออกอาการแผ่วแม้เพียงนิดเดียว แน่นอนว่าพวกเขาจะลงโทษคุณ แต่เราทำได้ดีมาก สิ่งสำคัญคือเราไม่เสียประตูและเดินหน้าต่อไป ตอนนี้เราจะโฟกัสไปที่เกมพบ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก วันที่ 19 ตุลาคมนี้)