เวลา : 22:30 น. เชลซี -VS- ลิเวอร์พูล เรตราคา ลิเวอร์พูล ต่อ 0.25

วันอาทิตย์ที่ 20 กันยายน 2563

พรีเมียร์ลีก

เชลซี -VS- ลิเวอร์พูล

เวลา : 22:30 น.

สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์

ถ่ายทอดสด : True Premier Football HD1 / True Premier Football HD2

เรตราคาไทย : ลิเวอร์พูล ต่อ 0.25

ผลการพบกันทั้ง 2 ทีม

14/04/19 ลิเวอร์พูล 2-0 เชลซี (พรีเมียร์ลีก)
15/08/19 ลิเวอร์พูล (P) 2-2 เชลซี (ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ)
22/09/19 เชลซี 1-2 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)
04/03/20 เชลซี 2-0 ลิเวอร์พูล (เอฟเอ คัพ)
23/07/20 ลิเวอร์พูล 5-3 เชลซี (พรีเมียร์ลีก)

ผลงาน 5 นัดหลังสุด

เชลซี
26/07/20 ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 2-0 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก
01/08/20 แพ้ อาร์เซน่อล 1-2 (สนามกลาง, เอฟเอ คัพ)
09/08/20 แพ้ บาเยิร์น มิวนิค 1-4 (เยือน, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
29/08/20 เสมอ ไบรท์ตัน 1-1 (เยือน, กระชับมิตรสโมสร)
15/09/20 ชนะ ไบรท์ตัน 3-1 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)

ลิเวอร์พูล
22/08/20 ชนะ สตุ๊ตการ์ท 3-0 (สนามกลาง, กระชับมิตรสโมสร)
25/08/20 เสมอ ซัลซ์บวร์ก 2-2 (เยือน, กระชับมิตรสโมสร)
29/08/20 เสมอ อาร์เซน่อล 1-1 (P) (สนามกลาง, เอฟเอ คอมมิวนิตี้ ชิลด์)
05/09/20 ชนะ แบล็คพูล 7-2 (เหย้า, กระชับมิตรสโมสร)
12/09/20 ชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด 4-3 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)

สภาพทีมโดยทั่วไป

เชลซี
เจ้าถิ่น เชลซี เก็บชัยเปิดฉากพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2020-21 หลังบุกเชือดเอาชนะ ไบรท์ตัน ด้วยสกอร์ 3-1 จากประตูของ จอรจินโญ่ (จุดโทษ), รีซ เจมส์ และ คูร์ท ซูม่า ในเกมพรีเมียร์ลีก นัดเปิดซัซั่นใหม่

แมตช์นี้ แฟร้งค์ แลมพาร์ด หมดสิทธิ์ใช้งาน 3 ตัวใหม่ ฮาคิม ซีเย็ค บาดเจ็บ กับ เบน ชิลเวลล์ หายจากอาการบาดเจ็บกลับมาซ้อม เช่นเดียวกับ ติอาโก้ ซิลวา เพิ่งซ้อมกับทีม ส่วน เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, คริสเตียน พูลิซิช และ ติโม แวร์เนอร์ ต้องเช็คความฟิตเพื่อออกสตาร์ทร่วมกับ เอ็นโกโล่ ก็องเต้, มาเตโอ โควาซิช, แทมมี่ อบราฮัม และ เมสัน เมาน์ ทำให้ จอร์จินโญ่,โอลิวิเยร์ ชิรูด์, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, รอสส์ บาร์คลี่ย์, คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย และ ฟิคาโย่ โทโมรี่ ต้องรอโอกาสก่อน

ลิเวอร์พูล
ฟากทีมเยือน ลิเวอร์พูล เจ้าของแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019-20 เปิดตัวซีซั่นใหม่ด้วยการเปิดรังบี้เอาชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด น้องใหม่ของพรีเมียร์ลีก และแชมป์แชมเปี้ยนชิพด้วยสกอร์ 4-3 พร้อมผลงานแฮตทริคของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และเพิ่งจัดหนักเสริมทัพด้วย ติอาโก้ อัลกันตาร่า มิดฟิลดของ บาเยิร์น มิวนิค กับ ดีโอโก้ โชต้า ปีกของ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส

แมตช์นี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ เทรนเนอร์ของ ลิเวอร์พูล ขาดเพียง อเล็กซ์ ออกซ์เลด-แชมเบอร์เลน บาดเจ็บ การจัดทัพตามหมาก 4-3-3 ยังมี เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจ โกเมซ, เวอร์จิล ฟาน ไดค์ และ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เป็นแบ็กโฟร์ ส่วนแผงมิดฟิลด์อาจได้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ฟิตสมบูรณ์กลับมาประจำตำแหน่งร่วมกับ ฟาบินโญ่ กับ จอร์จินิโอ ไวนัลดุม และ 3 ตัวรุกยังเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ส่วน ติอาโก้ อัลกันตาร่า กับ ดีโอโก้ โชต้า อาจมียังไม่มีชื่อกับทีม

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

เชลซี
เชลซี (4-2-2-2) : เกปา อาร์รีซาบาลาก้า – รีซ เจมส์, คูร์ท ซูม่า, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า – เอ็นโกโล่ ก็องเต้, มาเตโอ โควาซิช – เมสัน เมาน์, ไค ฮาแวร์ทซ์ – แทมมี่ อบราฮัม, ติโม แวร์เนอร์

ลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจ โกเมซ, เวอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, จอร์จินิโอ ไวนัลดุม – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่

ความน่าจะเป็นของเกม

เชลซี ฟอร์มช่วงหลังในทุกรายการเริ่มกลับมาเล่นได้ดีหลังพ่าย 2 นัดรวด ก่อนคัมแบ็กคว้าชัยเป็นเกมแรกในรอบ 4 นัดที่ผ่านมาในเกมล่าสุด และไม่แพ้จากการลงสนาม 2 นัดหลัง พร่อมแนวรับ-รุกกำลังเล่นในทิศทางที่ดี นอกจากนี้ยังมีเกมเหย้าแข็งแกร่งมาก ฟาก ลิเวอร์พูล ฟอร์มระยะหลังในทุกรายการดีเยี่ยมหลังเสมอ 2 นัดติด ก่อนกลับมาเก็บชัยรวด 2 นัดหลังสุด ทำให้ซิวชัยรวม 4 เกมจาก 6 นัดหลัง และไร้พ่ายจากการลงสนาม 6 นัดที่ผ่านมา พร้อมแนวรับ-รุกสามารถเล่นหวังผลได้เสมอ แต่เกมเยือนยังดร็อปอยู่ ทำให้แมตช์นี้ “สิงโตน้ำเงินคราม” กำลังห้าว และกุมความได้เปรียบจากการเล่นในรังมีลุ้นแบ่ง 1 แต้มจาก “หงส์แดง” เอาไว้ได้