วันอาทิตย์ที่ 08 พฤศจิกายน 2563
พรีเมียร์ลีก
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ -VS- ลิเวอร์พูล
เวลา : 23:30 น.
สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม
ถ่ายทอดสด : True Premier Football HD1 / True Premier Football HD2
เรตราคาไทย : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่อ 0.5
ผลการพบกันทั้ง 2 ทีม
07/10/18 ลิเวอร์พูล 0-0 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก)
04/01/19 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-1 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)
04/08/19 ลิเวอร์พูล 1-1 (P) แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (เอฟเอ คอมมิวนิตี้ ชิลด์)
10/11/19 ลิเวอร์พูล 3-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก)
03/07/20 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4-0 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)
ผลงาน 5 นัดหลังสุด
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
21/10/20 ชนะ ปอร์โต้ 3-1 (เหย้า, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
24/10/20 เสมอ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-1 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
27/10/20 ชนะ โอลิมปิก มาร์กเซย 3-0 (เยือน, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
31/10/20 ชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 1-0 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
03/11/20 ชนะ โอลิมเปียกอส 3-0 (เหย้า, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
ลิเวอร์พูล
21/10/20 ชนะ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม 1-0 (เยือน, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
24/10/20 ชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 2-1 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)
28/10/20 ชนะ มิดทิลแลนด์ 2-0 (เหย้า, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
31/10/20 ชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-1 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)
03/11/20 ชนะ อตาลันต้า 5-0 (เยือน, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
สภาพทีมโดยทั่วไป
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รองแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ของเทรนเนอร์ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยังไม่มี แฟร์นานดินโญ่ และ เบนฌาแม็ง เมนดี้ บาดเจ็บ รวมทั้ง เซร์คิโอ อเกวโร่ “กุน” ไม่ฟิตเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์
ส่วน กาเบรียล เชซุส หายจากอาการบาดเจ็บกลับมาลงสนามเป็นตัวสำรองในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กลางสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว และเตรียมออกสตาร์ทร่วมกับ เควิน เดอ บรอยน์, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, อิลคาย กุนโดกัน, ไคล์ วอล์คเกอร์, อายเมอริก ลาปอร์กต์, รูเบน ดิอาส และ เฟร์ราน ตอร์เรส พร้อมกำลังสำรอง ริยาด มาห์เรซ, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, โอเล็คซานเดอร์ ซินเชนโก้, เนธาน อาเก้, ฟิล โฟเด้น, เอริก การ์เซีย และ เลียม ดีแลป
ลิเวอร์พูล
ฟากทีมเยือน ลิเวอร์พูล เจ้าของแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ของเทรนเนอร์ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังลิสต์นักเตะบาดเจ็บทั้ง เวอร์จิล ฟาน ไดค์, อเล็กซ์ ออกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, ติอาโก้ อัลกันตาร่า และ ฟาบินโญ่ ส่วน โฌแอล มาติป เรียกความฟิตกลับมาแล้ว
การจัดทัพอาจปรับแผนจาก 4-3-3 มาเล่น 4-2-3-1 พร้อมส่ง ดิโอโก้ โชต้า ออกสตาร์ทผนึกกำลังกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินิโอ ไวนัลดุม, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, อลีสซง เบ็คเกอร์ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ โดยมี เจมส์ มิลเนอร์, ดิว็อค โอริกี้, นาบี เกอิต้า, เซอร์ดาน ชากิรี่, คอสตาส ซิมิคาส และ ทาคุมิ มินามิโนะ เป็นกำลังสำรอง
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส – ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, อายเมอริก ลาปอร์กต์, ชูเอา คันเซโล่ – โรดรี้ เอร์นานเดซ, อิลคาย กุนโดกัน, เควิน เดอ บรอยน์ – เฟร์ราน ตอร์เรส, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, กาเบรียล เชซุส
ลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : อลีสซง เบ็คเกอร์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โฌแอล มาติป, โจ โกเมซ, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินิโอ ไวนัลดุม – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดิโอโก้ โชต้า, ซาดิโอ มาเน่ – โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่
ความน่าจะเป็นของเกม
แมนฯ ซิตี้ ฟอร์มช่วงหลังเริ่มเล่นได้ดีขึ้นด้วยการกลับมาเก็บชัย 2 ใน 3 นัดหลังสุด แม้มีเสมอ 2 เกมจาก 4 นัดหลัง ทำให้กำชัยเพียง 2 เกมเท่านั้นจากการลงลงสนาม 5 นัดที่ผ่านมา และเกมรุกยังไม่เฉียบคมดุดันมากนักจนกดเพียงเกมละ 1 ประตูตลอด 4 นัดหลัง แต่ยังมีเกมเหย้าแข็งแกร่ง
ลิเวอร์พูล ฟอร์มระยะหลังกลับมาดีเยี่ยมด้วยการคัมแบ็กคว้าชัยรวด 2 นัดหลังสุด และไม่แพ้จากการลงสนาม 3 นัดหลัง พร้อมแนวรุกกลับมาสอดประสานไหลลื่น และหลากหลาย แต่แนวรับยังไม่ลงตัวมากนัก ส่วนเกมเยือนทำได้ดีมาโดยตลอด ทำให้แมตช์นี้ “หงส์แดง” ยังเหลื่อมกว่าจะบุกมาเก็บผลเสมอจาก “เรือใบสีฟ้า” กลับออกไปได้