กุนซือทีมชาติเดนมาร์ก ยกเครดิตให้ คริสเตียน อีริคเซน เป็นแรงผลักดันที่พาทีมเข้ารอบรองชนะเลิศ ยูโร 2020 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 29 ปี
วันที่ 4 ก.ค. 64 ควันหลงฟุตบอลยูโร 2020 รอบ 8 ทีม ซึ่ง ทีมชาติเดนมาร์ก อดีตแชมป์ 1 สมัย กลายเป็นทีมแรกที่แพ้รวดใน 2 นัดแรก แต่สามารถทะลุเข้าถึงรอบรองชนะเลิศของศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปได้ หลังเอาชนะ ทีมชาติสาธารณรัฐเช็ก อดีตแชมป์ปี 1976 ด้วยสกอร์ 2-1 ไปพบ ทีมชาติอังกฤษ ที่ถล่ม ทีมชาติยูเครน 4-0 ในวันพุธที่ 7 กรกฎาคมนี้
หลังจบเกม แคสเปอร์ ยูลมันด์ กุนซือทีมชาติเดนมาร์กให้สัมภาษณ์ว่าทุกคนในทีมยังคงคิดถึง คริสเตียน อีริคเซน อยู่เสมอ แม้ว่าจอมทัพจาก อินเตอร์ มิลาน จะได้ลงเล่นในรายการนี้เพียงแค่ 41 นาที หลังมีอาการหัวใจวายจนวูบหมดสติในรอบแบ่งกลุ่ม นัดแรก ที่แพ้ ฟินแลนด์ 0-1 เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ก่อนรอดชีวิตมาได้ ซึ่งก็กลายเป็นแรงผลักดันให้ทุกคนในทีมรวมใจกันสู้จนมีลุ้นสร้างปาฏิหาริย์เหมือนศึกยูโร 1992 ที่คว้าแชมป์แบบพลิกความคาดหมาย หลังได้สิทธิ์มาแทน ยูโกสลาเวีย ที่เกิดสงครามกลางเมือง
ยูลมันด์ กล่าวว่า “เราทุกคนได้ตระหนักว่าคุณค่าของฟุตบอลขึ้นอยู่กับอะไร และเราก็ได้รับสิ่งเตือนใจจากเรื่องนี้ ผมยังคิดถึง คริสเตียน ตลอดเวลาในทุกๆ วัน ซึ่งเขาควรได้มาอยู่กับเราที่นี่ เราดีใจมากที่เขายังมีชีวิตอยู่ ซึ่งเราก็พาเขามาด้วยกันตลอดทางจนถึงแมตช์นี้และต่อเนื่องไปจนถึงเวมบลีย์ (รอบรองชนะเลิศ)”
“เราทุกคนเข้าใจดีว่าสิ่งนี้คือคุณค่าของฟุตบอล และบางทีเราอาจเป็นสัญลักษณ์ของมัน ซึ่งทีมของเราได้แสดงมันออกมาโดยไม่ต้องมีคำพูดคำจาใดๆ มันเหลือเชื่อมากที่เห็นการตอบสนองของทีมนี้ และได้เห็นว่าพวกเขามีความรักความผูกพันกันมากแค่ไหน ซึ่งอาจรวมถึงชาวเดนมาร์กด้วย เรามีความสุขและภูมิใจที่ได้ตระหนักว่าทำไมเราถึงรักฟุตบอล และแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่ฟุตบอลสามารถขับเคลื่อนได้บนโลกใบนี้”.