กุนซือแมนยูฯ เผยเบื้องหลัง คริสเตียโน โรนัลโด ไม่ได้ลงพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุด หลังโดนวิจารณ์หนัก พร้อมขอบคุณแมนฯ ซิตี้ แม้โดนถล่ม
วันที่ 6 ตุลาคม 2565 เอริก เทน ฮาก ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อันดับ 6 พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ให้สัมภาษณ์ก่อนเกมยูโรปาลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 3 กลุ่มอี ซึ่งออกไปเยือน โอโมเนีย นิโคเซีย ทีมจากไซปรัส คืนนี้ แข่งขัน 23.45 น. ตามเวลาประเทศไทย
เทน ฮาก ชี้แจงกรณีที่ คริสเตียโน โรนัลโด มีชื่อเป็นแค่ตัวสำรอง แต่ไม่ถูกส่งลงสนามในพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุดที่ แมนยูฯ บุกไปแพ้ แมนฯ ซิตี้ 3-6 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม จนถูก รอย คีน ตำนานมิดฟิลด์ “ปิศาจแดง” ซึ่งปัจจุบันเป็นนักวิจารณ์ฟุตบอล โจมตีว่าไม่ให้เกียรติยอดดาวยิงทีมชาติโปรตุเกสที่ควรจะได้โอกาสลงไปช่วยทีมบ้าง แม้ อองโตนี มาร์กซิยาล ที่ถูกส่งลงไปแทน มาร์คัส แรชฟอร์ด จะช่วยยิง 2 ประตูให้ทีมแพ้น้อยลงก็ตาม
ล่าสุด เทน ฮาก เผยเบื้องหลังของการจับ โรนัลโด นั่งสำรองว่า เขามีวิธีจัดการลูกทีมแต่ละคนที่แตกต่างกัน และอยากให้กองหน้าวัย 37 ปีมีแรงกระตุ้นในการกลับมาแย่งตำแหน่งตัวจริง โดยอธิบายว่า “เขาไม่พอใจที่ไม่ได้ลงเล่นในวันอาทิตย์ แน่นอนว่าเขาอยากเล่น และมันชัดเจนว่าเขาหงุดหงิดเมื่อไม่ได้ลงสนาม”
“แต่เมื่อผมบอกคุณว่า ถ้านักเตะทุกคนพูดว่าเมื่อคุณอยู่ที่นี่และมีความสุข หรือพอใจเมื่อคุณอยู่บนม้านั่งสำรอง ที่นี่ก็ไม่ใช่สโมสรที่คุณต้องอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คริสเตียโน เขามีความสามารถในการแข่งขันอย่างที่เราทุกคนทราบ แน่นอนว่าเขาไม่มีความสุขเมื่อไม่ได้ลงเล่น แต่ผมพูดไปแล้ว และผมต้องย้ำอีกครั้งว่าเขาซ้อมได้ดี เขาดูอารมณ์ดี เขามีแรงบันดาลใจ และเขาพยายามอย่างเต็มที่ที่สุด นั่นคือสิ่งที่เราคาดหวัง”
“คุณก็รู้ว่าทุกคนมีความแตกต่าง ไม่มีใครในทีมที่เหมือนกัน ผมจะปฏิบัติต่อทุกคนด้วยความเคารพ แต่พวกเขาทั้งหมดมีภูมิหลังที่แตกต่างกัน และผมต้องปฏิบัติต่อผู้เล่นที่แตกต่างกัน เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุดจากพวกเขา แต่มันก็มีมาตรฐานและค่านิยมทั่วไปที่มีความสำคัญสำหรับทุกคน”
นอกจากนี้ เทน ฮาก ยังขอบคุณ เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือแมนฯ ซิตี้ ที่เขาเคยเป็นผู้ช่วยสมัยร่วมงานกันที่ บาเยิร์น มิวนิก หลังเกมที่ แมนยูฯ บุกไปแพ้แบบยับเยินว่า “ตอนนี้เราได้รับบททดสอบที่แท้จริงจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แล้ว เรารู้ว่าเรายังต้องปรับปรุงให้มากขึ้น ขอบคุณสำหรับบทเรียนจาก เป๊ป และ ซิตี้ เราจะรับมันไว้ และเราต้องเข้าใจว่าเราต้องทำสิ่งต่างๆ ให้ดีขึ้นอีกมาก”.