“ซานโช” ผีตัวใหม่

เรียกได้ว่าตกเป็นข่าวคราวมาเนิ่นนานสำหรับ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ จาดอน ซานโช ปีกทีมชาติอังกฤษของโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทีมแกร่งจากเวทีบุนเดสลีกา เยอรมนี หลังจากปีกวัย 21 ปีโชว์ฟอร์มได้โดดเด่นกับทัพ “เสือเหลือง” ตลอด 2–3 ปีที่ผ่านมา

บรรยากาศอันอึมครึมในถิ่นซิกแนล ไอดูนา พาร์ค ระหว่าง “เสือเหลือง” กับซานโช ก็มี

มาซักพักใหญ่ๆ เนื่องจากหลังๆปีกทีมชาติอังกฤษขาดวินัยในการซ้อมบางครั้งคราว แต่ก็ตามประสาเด็กวัยรุ่นที่ยังมีเรื่องแบบนี้บ้าง

แต่ความเป็นมืออาชีพ ซานโชมีเต็มเปี่ยมเมื่อรู้ตัวว่าทำผิดก็ไม่ตอบโต้อะไร แถมพักหลังตกเป็นตัวสำรองก็ไม่เคยปริปากบ่น แม้ว่าสื่อบางสำนักจะออกมาแฉว่าไม่ค่อยพอใจก็ตาม

แถมยังตกเป็นข่าวกับบรรดาทีมดังจากเมืองผู้ดีกรณีต้องการย้ายกลับมาเล่นบ้านเกิดทำให้เจ้าตัวก็เริ่มคิดอยากกลับบ้าน โดยเฉพาะช่วงท้ายฤดูกาลที่แล้วข่าวลือสะพัดอย่างหนักว่า ซานโชจะย้ายทีมแน่นอน

แม้ว่าบรรดาผู้บริหารของเสือเหลืองจะเสียงแข็งว่าไม่ให้ซานโชออกจากทีมแน่นอนเพราะนักเตะยังเป็นกำลังหลักของทีม

แต่สุดท้ายเสียงก็อ่อนลงเรื่อยๆ จนสุดท้ายออกมายอมรับว่าปีกทีมชาติอังกฤษเตรียมย้ายออกจากทีม

และเป้าหมายก็ไม่ใช่ที่ไหน “ปิศาจแดง” ที่ตกเป็นข่าวเกี้ยวพาราสีกันมาอย่างยาวนาน สุดท้ายตกลงกันได้ แม้ว่าราคาอย่างเป็นทางการจะไม่ชัดเจน แต่แหล่งข่าววงในยืนยันว่าดีลนี้จบที่ 73 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,212 ล้านบาท)

โดยที่ซานโชได้เซ็นสัญญาอยู่ในถิ่นโอลด์ แทรฟเฟิร์ดเป็นเวลา 5 ปี หรือจนถึงเดือนมิถุนายน ปี 2026 พร้อมเงื่อนไขสามารถขยายสัญญาได้อีก 1 ปี ส่วนค่าเหนื่อยคาดว่าจะได้รับค่าเหนื่อยสัปดาห์ละ 350,000 ปอนด์ (ประมาณ 15.4 ล้านบาท)

ซึ่งอดีตแข้งแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะสวมเสื้อเบอร์ 25 ลงรับใช้แมนฯ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลนี้ การมาของซานโชนั้นจะยกระดับแนวรุกของ “ปิศาจแดง” ให้จี๊ดจ๊าดและอันตรายมากขึ้น

กองหน้าตัวเป้ามีเอดินสัน คาวานี ลงยืนหัวหอก โดยมีบรูโน แฟร์นันเดส ผนึกกำลังมาร์คัส แรชฟอร์ด และจาดอน ซานโช ปั้นเกมรุก บอกได้เลยตอนนี้แนวรุก “ปิศาจแดง” แกร่งไม่แพ้ทีมไหนในพรีเมียร์ลีก

ตอนนี้เหลือเพียงแค่ปิดดีลของราฟาเอล วาราน ปราการหลังทีมชาติฝรั่งเศสของเรอัล มาดริด ที่มีข่าวแว่วมาว่าโอกาสย้าย 90 เปอร์เซ็นต์ให้ได้อีกคน

เชื่อว่าถ้าได้ทั้งซานโชและวาราน มาร่วมทีมเชื่อว่าน่าจะทำให้ปอล ป็อกบา กองกลางทีมชาติฝรั่งเศส อาจจะคิดต่อสัญญาต่อไปอีกก็เป็นได้

เพราะถ้าทั้งคู่มาประกอบกับขุมกำลังที่มีอยู่ทั้งดาวิด เด เคอา, แฮร์รี แมคไกวร์, ลุค ชอว์, ดอนนี ฟาน เดอ เบค, สกอตต์ แมคโทมิเนย์, บรูโน แฟร์นันเดส, มาร์คัส แรชฟอร์ด, แอนโธนีย์ มาร์กเซียล และเอดินสัน คาวานี

จากรายชื่อที่กล่าวมานั้นก็เพียงพอต่อการให้ “ปิศาจแดง” ก้าวขึ้นไปเป็นผู้ท้าชิงแชมป์พรีเมียร์ลีกจาก “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อย่างเต็มตัวในฤดูกาลนี้

บอกได้เลยว่าสาวก “เรด เดวิลส์” ได้ลุ้นกันยาวๆ.