นีล เลนนอน แสดงสปิริตลาออกจากตำแหน่งกุนซือกลาสโกว์ เซลติก หลังตาม กลาสโกว์ เรนเจอร์ส ของ สตีเวน เจอร์ราร์ด ในลีกสกอตแลนด์ถึง 18 แต้ม
วันที่ 24 ก.พ. 64 นีล เลนนอน ประกาศลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมกลาสโกว์ เซลติก อย่างเป็นทางการ หลังจากที่ “ม้าลายเขียว-ขาว” ส่อแววหมดลุ้นแชมป์สกอตติช พรีเมียร์ลีก สมัยที่ 10 ติดต่อกัน โดยผู้ช่วยอย่าง จอห์น เคนเนดี จะเข้ามาทำหน้าที่กุนซือขัดตาทัพชั่วคราว
เลนนอน วัย 49 ปี ให้สัมภาษณ์หลังการลาออกว่า “เรามีฤดูกาลที่ยากลำบากด้วยหลายปัจจัย แน่นอนว่ามันผิดหวังมากที่เราไม่สามารถรักษามาตรฐานที่เคยทำเอาไว้สูงได้ แม้ผมจะพยายามทำงานหนักอย่างสุดความสามารถ แต่โชคร้ายที่เราไม่อาจทำผลงานได้ตามที่ต้องการ อย่างไรก็ตาม ผมภูมิใจเสมอที่เคยมีโอกาสได้นำถ้วยรางวัลมามอบให้กับแฟนๆ เซลติก สโมสรแห่งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของผมตลอดไป และผมจะคอยสนับสนุนให้ เซลติก ได้รับสิ่งที่ดีที่สุดเหมือนที่เคยเป็นมา”
สำหรับ เลนนอน เข้ามารับงานกับเซลติกเป็นครั้งที่ 2 ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2019 หลังจาก เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ย้ายไปคุม เลสเตอร์ ซิตี้ ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ก่อนพา “ม้าลายเขียว-ขาว” ได้แชมป์ลีก 2 สมัย, แชมป์สกอตติช คัพ 2 สมัย และแชมป์สกอตติช ลีกคัพ อีก 1 สมัย
แต่ฤดูกาลนี้ผลงานกลับตกต่ำอย่างน่าใจหาย โดยตกรอบคัดเลือก รอบ 2 ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ก่อนชนะเพียง 1 นัดจาก 6 เกมในยูโรปาลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอช ตกรอบตามระเบียบ จากนั้นก็เสียสถิติชนะ 35 นัดติดต่อกันในฟุตบอลถ้วยของสกอตแลนด์ เมื่อพลาดท่าแพ้ รอสส์ เคาน์ตี คาบ้าน 0-2 ในลีกคัพ รอบ 16 ทีม ทำให้แฟนบอลรวมตัวประท้วง ก่อนปะทะกับตำรวจนอกสนาม
จากนั้นฟางเส้นสุดท้ายก็ขาดสะบั้นลงในเกมลีกที่แพ้ รอสส์ เคาน์ตี ซึ่งรั้งอันดับสุดท้ายของตารางก่อนลงสนามไป 0-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ตามหลัง กลาสโกว์ เรนเจอร์ส คู่ปรับตลอดกาลที่คุมทัพโดย สตีเวน เจอร์ราร์ด อดีตกัปตันทีมลิเวอร์พูล ห่างถึง 18 แต้ม หลังจาก “เดอะ ไลท์บลูส์” ยังไม่แพ้ใครตลอด 30 นัดในซีซั่นนี้ ซึ่งก็ชนะไปถึง 26 เกม