พรีเมียร์ลีก เวลา : 23:30 น. ลิเวอร์พูล -VS- แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เรตราคา : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่อ 0.5

วันอาทิตย์ที่ 07 กุมภาพันธ์ 2564

พรีเมียร์ลีก

ลิเวอร์พูล -VS- แมนเชสเตอร์ ซิตี้

เวลา : 23:30 น.

สนาม : แอนฟิลด์

ถ่ายทอดสด : True Premier Football HD1 / True Premier Football HD2

เรตราคาไทย : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่อ 0.5

ผลการพบกันทั้ง 2 ทีม

04/01/19 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-1 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)
04/08/19 ลิเวอร์พูล 1-1 (P) แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (เอฟเอ คอมมิวนิตี้ ชิลด์)
10/11/19 ลิเวอร์พูล 3-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก)
03/07/20 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4-0 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)
08/11/20 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-1 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)

ผลงาน 5 นัดหลังสุด

ลิเวอร์พูล
21/01/21 แพ้ เบิร์นลี่ย์ 0-1 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)
24/01/21 แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-3 (เยือน, เอฟเอ คัพ)
28/01/21 ชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 3-1 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
31/01/21 ชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 3-1 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
03/02/21 แพ้ ไบรท์ตัน 0-1 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)

แมนเชสเตอร์ ซิตี้
20/01/21 ชนะ แอสตัน วิลล่า 2-0 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)
23/01/21 ชนะ เชลแน่ม 3-1 (เยือน, เอฟเอ คัพ)
26/01/21 ชนะ เวสต์บรอมวิช 5-0 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
30/01/21 ชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 1-0 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)
03/02/21 ชนะ เบิร์นลี่ย์ 2-0 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)

สภาพทีมโดยทั่วไป

ลิเวอร์พูล
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล เพิ่งเสีย โฌแอล มาติป ไปบาดเจ็บอีกสมทบ เวอร์จิล ฟาน ไดค์, โจ โกเมซ และ นาบี เกอิต้า ทำให้ต้องเสริมทัพด้วย 2 เซ็นเตอร์แบ็กตัวใหม่คือ เบน เดวิส จาก เปรสตัน นอร์ธเอนด์ กับ โอซาน คาบัค จาก ชาลเก้ ก่อนตลาดฤดูหนาว 2021 ปิด ส่วน ซาดิโอ มาเน่, อลีสซง เบ็คเกอร์, ฟาบินโญ่ และ ดีโอโก้ โชต้า กลับมาซ้อมแล้ว ทำให้ ซาดิโอ มาเน่, อลีสซง เบ็คเกอร์ และ ฟาบินโญ่ เตรียมคืนสนาม ด้าน โอซาน คาบัค มีลุ้นประเดิมสตาร์ทพร้อม โมฮาเหม็ด ซาลาห์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินิโอ ไวนัลดุม, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ ติอาโก้ อัลกันตาร่า โดยมี เจมส์ มิลเนอร์, เซอร์ดาน ชากิรี่, อเล็กซ์ ออกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, ดิว็อค โอริกี้ และ เคอร์ติส โจนส์ เป็นกำลังสำรอง

แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ด้านทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกมนี้ยังขาด เควิน เดอ บรอยน์ กับ เนธาน อาเก้ บาดเจ็บ ส่วน เซร์คิโอ อเกวโร่ “กุน” หายจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้ว แต่ยังต้องเรียกความฟิตต่อ การจัดทัพในระบบ 4-3-3 เตรียมโรเตชั่น ไคล์ วอล์คเกอร์ กับ ฟิล โฟเด้น ลงประจำการร่วมกับ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, อิลคาย กุนโดกัน, จอห์น สโตนส์, ไคล์ วอล์คเกอร์, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, กาเบรียล เชซุส, โรดรี้ เอร์นานเดซ, รูเบน ดิอาส และ ชูเอา คันเซโล่ พร้อมมี แฟร์นานดินโญ่, ริยาด มาห์เรซ, อายเมอริก ลาปอร์กต์, เบนฌาแม็ง เมนดี้, โอเล็คซานเดอร์ ซินเชนโก้, เอริก การ์เซีย และ เฟร์ราน ตอร์เรส เป็นตัวสอดแทรก

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

ลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, ฟาบินโญ่,โอซาน คาบัค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ติอาโก้ อัลกันตาร่า, จอร์จินิโอ ไวนัลดุม – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่

แมนเชสเตอร์ ซิตี้
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส – ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, รูเบน ดิอาส, ชูเอา คันเซโล่ – โรดรี้ เอร์นานเดซ, อิลคาย กุนโดกัน, แบร์นาร์โด้ ซิลวา – ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, ฟิล โฟเด้น, กาเบรียล เชซุส

ความน่าจะเป็นของเกม

ลิเวอร์พูล ฟอร์มช่วงหลังยังไม่สู้ดีหลังกลับมาเก็บชัย 2 นัดติด ก่อนเสียท่าพ่ายอีกในเกมล่าสุด ทำให้เป็นความปราชัยรวม 3 เกมจาก 6 นัดหลัง และกำชัยเพียง 2 เกมเท่านั้นจากการลงสนาม 8 นัดที่ผ่านมา โดยเฉพาะเกมเหย้าหลุดไปมากจนแพ้คารังรวด 2 นัดหลังสุด และไม่สามารถควานหาชัยชนะได้จาก 4 นัดหลัง ส่วนทางด้าน ซิตี้ ฟอร์มระยะหลังกำลังขาขึ้น เมื่อสามารถกวาดชัยราบคาบ 9 เกมหลังติดต่อกัน รวมทั้งเป็นการเก็บชัยพร้อมคลีนชีตจากการลงสนาม 6 นัดหลัง ทำให้สามารถกอบโกย 11 เกมจาก 13 นัดหลัง พ่วงผลงานไร้พ่ายตลอด 13 นัดที่ผ่านมา รวมทั้งเกมเยือนกำลังทำได้ดีเยี่ยม แต่แมตช์นี้ “หงส์แดง” แม้ไม่ได้อยู่ในช่วงเวลาที่ดี แต่ยังมีคุณภาพ และมีโอกาสเบรกความร้อนแรงของ “เรือใบสีฟ้า” ได้