วิเคราะห์บอล ลีก คัพ : บอร์นมัธ (พรีเมียร์ลีก) -vs- ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)
สนาม : วิทาลิตี้ สเตเดี้ยม
เวลา : 02.45 น.
ราคาบอล : ลิเวอร์พูล ต่อ 1.0
ผลการพบกันของทั้งสองทีม
19/08/23 ลิเวอร์พูล ชนะ บอร์นมัธ 3-1
11/03/23 บอร์นมัธ ชนะ ลิเวอร์พูล 1-0
27/08/22 ลิเวอร์พูล ชนะ บอร์นมัธ 9-0
07/03/20 ลิเวอร์พูล ชนะ บอร์นมัธ 2-1
07/12/19 บอร์นมัธ แพ้ ลิเวอร์พูล 0-3
09/02/19 ลิเวอร์พูล ชนะ บอร์นมัธ 3-0
08/12/18 บอร์นมัธ แพ้ ลิเวอร์พูล 0-4
15/04/18 ลิเวอร์พูล ชนะ บอร์นมัธ 3-0
18/12/17 บอร์นมัธ แพ้ ลิเวอร์พูล 0-4
06/04/17 ลิเวอร์พูล เสมอ บอร์นมัธ 2-2
ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดในรายการนี้
บอร์นมัธ
28/09/23 แพ้ สโต๊ค 2-0 (เหย้า)
30/08/23 ชนะ สวอนซี 3-2 (เยือน)
21/12/22 แพ้ นิวคาสเซิ่ล 0-1 (เยือน)
09/11/22 ชนะ เอฟเวอร์ตัน 4-1 (เหย้า)
24/08/22 เสมอ นอริช 2-2 (เยือน) / ชนะจุดโทษ 5-3
ลิเวอร์พูล
28/09/23 ชนะ เลสเตอร์ 3-1 (เหย้า)
23/12/22 แพ้ แมนฯซิตี้ 2-3 (เยือน)
10/11/22 เสมอ ดาร์บี้ 0-0 (เหย้า) / ชนะจุดโทษ 3-2
27/02/22 เสมอ เชลซี 0-0 (กลาง) / ชนะจุดโทษ 11-10
21/01/22 ชนะ อาร์เซน่อล 2-0 (เยือน)
ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
บอร์นมัธ
28/10/23 ชนะ เบิร์นลี่ย์ 2-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 0.25 … ได้
21/10/23 แพ้ วูล์ฟส์ 1-2 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 0.25 … เสีย
07/10/23 แพ้ เอฟเวอร์ตัน 0-3 (เยือน) พรีเมียร์ลีก / รอง 0.5 … เสีย
30/09/23 แพ้ อาร์เซน่อล 0-4 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / รอง 1 … เสีย
28/09/23 ชนะ สโต๊ค 2-0 (เหย้า) ลีก คัพ / ต่อ 0.75 … ได้
ลิเวอร์พูล
29/10/23 ชนะ ฟอเรสต์ 3-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 1.75 … ได้
27/10/23 ชนะ ตูลูส 5-1 (เหย้า) ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก / ต่อ 2.0 … ได้
21/10/23 ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 1.25 … ได้
08/10/23 เสมอ ไบรท์ตันฯ 2-2 (เยือน) พรีเมียร์ลีก / ต่อ 0.5 … เสียครึ่ง
06/10/23 ชนะ ยูนิอง แซงต์ ชิญัวส์ 2-0 (เหย้า) ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก / ต่อ 2 … เจ๊า
สภาพทีมล่าสุดของทั้งสองทีม
บอร์นมัธ
บอร์นมัธ ของกุนซือ อันโดนี่ อิราโอล่า เพิ่งจะเปิดรังเอาชนะ เบิร์นลี่ย์ 2-1 ในลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับความพร้อมของทีมก่อนทำศึก ยังคงไม่สามารถใช้งาน ลูอิส คุ๊ค แดนกลางตัวหลักที่ติดโทษแบนอยู่เดิม เช่นเดียวกับ ไรอัน เฟรเดริคส์, เนโต้, ไทเลอร์ อดัมส์ และ เอมิเลียโน่ มาร์คอนเดส เหล่าบรรดาแข้งเดี้ยงที่อยู่ในะหว่างพักรักษาตัวยกเข่ง คาดว่า อิราโอล่า เตรียมโรเตชั่นในระบบ 4-2-3-1 โดยมี โดมินิก โซลันเก้ ออกสตาร์ทยืนเป้าล่าสกอร์และใช้ อ็องตวน เซเมนโย่ รับจ๊อบเพลย์เมคเกอร์คอยสร้างสรรค์โอกาสอยู่ด้านหลังตามสูตร
ตัวแบน :
กองกลาง – ลูอิส คุ๊ค (7 นัด)
ตัวเจ็บ/หมดสิทธิ์ :
ผู้รักษาประตู – เนโต้ (9 นัด)
กองหลัง – ไรอัน เฟรเดริคส์ (-)
กองกลาง – ไทเลอร์ อดัมส์ (-), เอมิเลียโน่ มาร์คอนเดส (-)
บอร์นมัธ (4-2-3-1) : อันเดรย์ ราดู – อดัม สมิธ, อิลเลีย ซาบาร์นยี่, คริส เมแฟม, มิลอส เคอร์เคซ – โจเซฟ ร็อธเวลล์, ฟิลิป บิลลิ่ง – ดังโก้ อูอัตตาร่า, อ็องตวน เซเมนโย่, หลุยส์ ซินิสเตอร์ร่า – โดมินิก โซลันเก้
ลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ เพิ่งจะเปิดรังเอาชนะ ฟอเรสต์ 3-0 ในลีกช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับความพร้อมของทีมก่อนลงเตะ จะไม่มีชื่อ หลุยส์ ดิอ๊าซ ที่ยังคงประสบปัญหาส่วนตัวและไม่สามารถใช้งานได้แน่นอน เช่นเดียวกับ เบ็น โด๊ค, ธิอาโก้ อัลคานตาร่า, สเตฟาน บายเซติช และ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เหล่าบรรดาตัวเจ็บซึ่งลงเล่นไม่ได้ทั้งหมด คาดว่า คล็อปป์ เตรียมโรเตชั่นในระบบ 4-3-3 โดยมี โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, ดาร์วิน นูนเญซ กับ โคดี้ กั๊คโป ผนึกกำลังกันล่าตาข่ายในแดนหน้าตามระเบียบ
ตัวแบน : –
ตัวเจ็บ/หมดสิทธิ์ :
กองหลัง – แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (8 นัด/1 ประตู)
กองกลาง – ธิอาโก้ อัลคานตาร่า (-), สเตฟาน บายเซติช (-)
กองหน้า – หลุยส์ ดิอ๊าซ (9 นัด/2 ประตู), เบ็น โด๊ค (1 นัด)
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ควีมิน เคลเลเฮอร์ – โจ โกเมซ, โฌแอล มาติป, จาเรลล์ ควอนซ่าห์, ลุค แชมเบอร์ส – ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์, วาตารุ เอ็นโด, เคอร์ติส โจนส์ – โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, ดาร์วิน นูนเญซ, โคดี้ กั๊คโป
ทรรศนะ
บอกเลยว่าถ้า ลิเวอร์พูล ส่งผู้เล่นชุดนี้ลงเตะ เตรียมตัวสนุกกันได้เลย เพราะถือเป็นการโรเตชั่นที่จัดหนักในเกมรุกพอสมควร ทั้งนี้ก็ต้องบอกว่าผู้เล่นกำลังเสริมยังมีมาตรฐานสูงและทดแทนกันได้แทบไม่ต่างกันนัก อาจจะติดแค่ผู้เล่นแนวรับที่ส่งเด็กลงเยอะหน่อย ด้านฟอร์มการเล่นกับความมั่นใจของพวกเขาก็น่าจะอยู่ในเกณฑ์สูงจัด หลังคว้าชัยรวด 3 หนท้ายทุกเวทีและซัดไม่เลี้ยงร่วมๆ 10 เม็ด จริงอยู่ที่เจ้าบ้าน บอร์นมัธ เพิ่งจะปลดล็อคเอาชนะ เบิร์นลี่ย์ 2-1 มาสดๆ ร้อนๆ ทว่าก่อนหน้านั้นค่อนข้างแย่และแพ้รวดสามหนซ้อน ยิ่งนัดนี้มีแววโรเตชั่นยิ่งทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมของทีมลดลงไปอีกพอสมควร มั่นใจว่ายังไงก็ไม่น่ารอดพ้นความปราชัยที่รออยู่เหมือนเคย เมื่อพิจารณาจากเรตกับภาพรวมต่างๆ แนะนำอยู่ต่อรอรับทรัพย์สบายใจสุด ฟันธง! จัดหนัก “หงส์แดง”
ฟันธง : “ลิเวอร์พูล ชนะ 3-1”