“ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตรียมบุกไปเยือน “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนนี้ (26 ธ.ค. 63)
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2020-21 ประจำวันเสาร์ที่ 26 ธ.8. 63 คู่ที่น่าสนใจ “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ อันดับ 2 ของตาราง จะเปิดสนามคิง เพาเวอร์ สเตเดียม รับการมาเยือนของ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อันดับ 3 ของตาราง เริ่มแข่งเวลา 19.30 น. ถ่ายทอดสดช่อง True Premier Football HD 1
เกมนี้ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือเลสเตอร์ ซิตี้ เล่นในบ้าน หวังพาทีมคว้า 3 คะแนนเต็ม เพื่อรักษาตำแหน่งรองจ่าฝูง และโกยแต้มไล่จี้ ลิเวอร์พูล โดยจิ้งจอกสยามได้รับข่าวดีเมื่อ เจมี วาร์ดี กองหน้าจอมถล่มประตู สภาพร่างกายฟิตสมบูรณ์ พร้อมลงล่าตาข่ายให้กับเจ้าถิ่น ส่วนผู้เล่นตัวหลักคนอื่นๆ ก็พร้อมลุยเช่นกัน นำมาโดย เจมส์ แมดดิสัน, ยูริ ติเลอมองส์ และ ฮาร์วีย์ บาร์นส์
ขณะที่ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เผลอแป๊บเดียวนำทีมขึ้นมาอยู่อันดับ 3 ของตารางแล้ว มีแต้มตามหลัง ลิเวอร์พูล และ เลสเตอร์ ซิตี้ อยู่แค่ 5 และ 1 คะแนน ตามลำดับ แถมยังแข้งน้อยกว่าทั้งสองทีมอยู่ 1 นัด เรียกได้ว่าถ้าบุกมาชนะเลสเตอร์ได้สำเร็จ ก็จะมีความมั่นใจในการไล่ล่าแชมป์ลีกซีซั่นนี้มากขึ้นอีกเยอะ อย่างไรก็ตาม โซลชาร์ ต้องรอเช็กความฟิตของ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ กองกลางคนสำคัญที่มีอาการเจ็บโคนขาหนีบ ว่าจะพร้อมลงเล่นหรือไม่ ถ้าไม่พร้อมก็จะเป็น พอล ป็อกบา ลงมาแทน นอกจากนั้นตัวหลักคนอื่นๆ อยู่กันพร้อมหน้า นำโดย เฟร็ด, บรูโน เฟอร์นันเดส, มาร์คัส แรชฟอร์ด และ อองโตนี มาร์เชียล ส่วน เอดินสัน คาวานี น่าจะอยู่บนม้านั่งสำรองลุ้นลงเป็นตัวทีเด็ด
สำหรับ สถิติที่ทั้งสองทีมพบกัน 5 ครั้งหลังสุดในพรีเมียร์ลีก: แมนยูฯ ชนะ 4 ครั้ง และเสมอกัน 1 ครั้ง โดยแมตช์ล่าสุดพบกันเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แมนยูฯ บุกชนะ เลสเตอร์ 2-0
วิเคราะห์: ด้วยการที่อาจจะมีตำแหน่งรองจ่าฝูงเป็นเดิมพัน เชื่อว่าทั้งสองทีมจะเปิดเกมรุกเข้าใส่กันอย่างแน่นอน เพราะอยู่ในช่วงที่ทั้งสองทีมกำลังมีความมั่นใจกันแบบสุดๆ เลสเตอร์ ยังคงมีทีเด็ดในการโต้กลับเร็ว และการวางบอลยาวไปให้ เจมี วาร์ดี ลุ้นจบสกอร์ ถ้าแนวรับแมนยูฯ ยืนตำแหน่งกันไม่ดีอาจถูกลงโทษได้ อย่างไรก็ตาม เลสเตอร์ก็ต้องระวังเกมรุกของปิศาจแดงที่ค่อนข้างมีความหลากหลายทั้งจากการปั้นเกมของ บรูโน เฟอร์นันเดส และความเร็วของพวกแนวรุกอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด และ อองโตนี มาร์เชียล ที่น่าจะปั่นป่วนแนวรับของจิ้งจอกสยามได้ไม่น้อย แถมยังมีตัวสำรองทีเด็ดอย่าง เอดินสัน คาวานี อีกด้วย ดูแล้วศึกครั้งนี้วัดกันที่ความเฉียบคมล้วนๆ ใครผิดพลาดน้อยกว่า และจบสกอร์ได้ดีกว่า มีลุ้นคว้า 3 แต้มแน่นอน เชื่อว่าจะไม่เสมอกัน แต่ถ้าต้องเลือกทีมชนะ คิดว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด น่าจะเป็นฝ่ายเข้าวินคว้าชัยไปได้ในเกมนี้แบบหวุดหวิด
ทำนายผล: เลสเตอร์ ซิตี้ แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-2
เว็บเดิมพันฟุตบอล และกีฬาหลากหลายประเภท อัพเดตทุกวัน การันตีความสนุกและปลอดภัย เชื่อถือได้