สรุปสถานการณ์โค้งสุดท้ายของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งตอนนี้ตกชั้นครบแล้ว ส่วนการลุ้นแชมป์ยังไม่จบตามทฤษฎี ขณะที่โควตา 3 ถ้วยยุโรปบี้กันมันหยด
วันที่ 11 พ.ค. 64 ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2020-2021 ปิดฉากการขับเคี่ยวไปแล้ว 1 พื้นที่ นั่นคือการลุ้นหนีตายในโซนท้ายตาราง หลังจากที่ ฟูแลม แพ้คาบ้านให้กับ เบิร์นลีย์ 0-2 ส่งผลให้ “เจ้าสัวน้อย” ยังมี 27 คะแนนเท่าเดิม รั้งอันดับ 18
ทำให้ เบิร์นลีย์ (อันดับ 14 มี 39 คะแนน), นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด (อันดับ 15 มี 39 คะแนน), ไบรจ์ตัน (อันดับ 16 มี 37 คะแนน) และ เซาแธมป์ตัน (อันดับ 17 มี 37 คะแนน) อยู่รอดปลอดภัยในลีกสูงสุดแน่นอนแล้ว เนื่องจาก ฟูแลม เหลือเกมในมือแค่ 3 นัด
สรุป 3 ทีมตกชั้น : ฟูแลม (อันดับ 18), เวสต์บรอมวิช อัลเบียน (อันดับ 19), เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด (อันดับ 20)
ลุ้นแชมป์
ส่วนการลุ้นแชมป์เหลือม้าเพียง 2 ตัวที่ยังขับเคี่ยวกันเป็นที่ 1 ซึ่งทั้งคู่การันตีสิทธิ์ไปเล่น ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก แน่นอนแล้ว แม้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูงจะมีภาษีดีกว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่ปรับร่วมเมืองอยู่หลายช่วงตัว แต่หากพิจารณาตามทฤษฎีก็ยังมีโอกาสที่จะเกิดการพลิกล็อกปาดหน้าเข้าเส้นชัยได้อยู่
เวลานี้ “เรือใบสีฟ้า” ครองจ่าฝูงที่ 80 คะแนน เหลือโปรแกรมอีก 3 นัด มีให้เก็บอีก 9 แต้ม แต่หากไปพลาดตกม้าตายเสียเองด้วยการไร้คะแนนติดมือ แล้ว “ปิศาจแดง” ที่ตามอยู่ 10 แต้ม และยังเหลืออีก 4 เกมในมือ เก็บครบ 12 คะแนนเต็มก็จะกลายเป็นการแซงคว้าแชมป์ที่เหลือเชื่อที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก
โปรแกรมที่เหลืออยู่ของ 2 ทีมลุ้นแชมป์
แมนฯ ซิตี้ – (เยือน) นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด, (เยือน) ไบรจ์ตัน, (เหย้า) เอฟเวอร์ตัน
แมนยูฯ – (เหย้า) เลสเตอร์ ซิตี้, (เหย้า) ลิเวอร์พูล, (เหย้า) ฟูแลม, (เยือน) วูล์ฟแฮมป์ตัน
ลุ้นโควตายูฟ่า แชมเปียนส์ลีก
การลุ้นพื้นที่ท็อปโฟร์ซีซั่นนี้ นับว่าต้องเบียดแย่งกันอย่างสนุกสูสีชนิดที่ห้ามทำแต้มหล่นแม้แต่คะแนนเดียว เนื่องจากยังมีลุ้นตั้งแต่อันดับ 3 จนถึงอันดับ 8 หากในแต่ละนัดใครเก็บ 3 แต้มได้แล้วคู่แข่งไปพลาดท่าสะดุดขาตัวเอง ก็มีสิทธิ์เข้าป้ายได้ไปลุยถ้วยใหญ่ของยุโรปเหมือนกัน
เวลานี้ เชลซี อันดับ 3 มีภาษีดีที่สุด ด้วยผลงานช่วงหลังที่สม่ำเสมอมากขึ้นหลังการเข้ามาของ โธมัส ทูเคิล กุนซือชาวเยอรมันที่เข้ามารับไม้ต่อจาก แฟรงค์ แลมพาร์ด แล้วเปลี่ยนให้กลายเป็นทีมที่มีเกมรับเหนียวแน่นแพ้ยาก
ขณะที่ เลสเตอร์ ซิตี้ อันดับ 4 ยังขาดความคงเส้นคงวา มีเพียงคะแนนสะสมที่ทำไว้เหนือกว่า เวสต์แฮม ยูไนเต็ด อันดับ 5 ม้ามืดแห่งฤดูกาล, ลิเวอร์พูล อันดับ 6 ดีกรีแชมป์เก่าที่ล้มลุกคลุกคลานมาตลอดจากปัญหาผู้เล่นผลัดกันบาดเจ็บจนต้องมาดิ้นรนในช่วงท้าย
ส่วน สเปอร์ส อันดับ 7 ที่ยังเอาแน่เอานอนไม่ได้ และ เอฟเวอร์ตัน อันดับ 8 ที่ขุมกำลังสำรองยังทดแทนตัวจริงไม่ค่อยได้อาจต้องชนะรวดในเกมที่เหลือ พร้อมกับพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์และภาวนาให้ปาฏิหาริย์มีจริง จึงจะมีลุ้นเป็น “ตาอยู่” คว้าพุงปลาไปกินในตอนจบ
สรุปสถานการณ์อันดับ 3-8
อันดับ 3 เชลซี 64 คะแนน เหลือ 3 นัด (9 แต้ม)
อันดับ 4 เลสเตอร์ ซิตี้ 63 คะแนน เหลือ 3 นัด (9 แต้ม)
อันดับ 5 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 58 คะแนน เหลือ 3 นัด (9 แต้ม)
อันดับ 6 ลิเวอร์พูล 57 คะแนน เหลือ 4 นัด (12 แต้ม)
อันดับ 7 สเปอร์ส 56 คะแนน เหลือ 3 นัด (9 แต้ม)
อันดับ 8 เอฟเวอร์ตัน 55 คะแนน เหลือ 4 นัด (12 แต้ม)
ลุ้นโควตายูโรปาลีก – ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก
จากการที่คะแนนในตอนนี้ของ เชลซี และ เลสเตอร์ ซิตี้ คู่ชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ ไม่มีทางจบต่ำกว่าอันดับ 7 แน่นอนแล้ว ทำให้อานิสงส์ถูกส่งต่อมายังทีมในกลุ่มนี้ โดยตั๋วยูโรปาลีกจากฟุตบอลถ้วยรายการใหญ่ของอังกฤษ จะถูกโยกมามอบให้กับอันดับบนตารางคะแนนในลีก จากเดิมที่โควตามีเพียงแค่อันดับ 5 เท่านั้นที่จะได้สิทธิ์ ก็กลายเป็นว่าจะมีลุ้นกันจนถึงอันดับ 6
ส่วนใบบุญจาก แมนฯ ซิตี้ ซึ่งคว้าแชมป์คาราบาวคัพ (ลีกคัพ) ไปก่อนหน้านี้ แต่การันตีโควตายูฟ่า แชมเปียนส์ลีก แน่นอนแล้ว ไม่ว่าจะด้วยอันดับบนตาราง หรือในฐานะแชมป์เก่าที่ยังรอตัดสินแชมป์ยุโรปสมัยแรกของสโมสรกับ เชลซี ทำให้ตั๋วไปเล่นรายการใหม่ของ สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป ที่จะประเดิมฤดูกาลหน้า “ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก” จากสิทธิ์แชมป์ลีกคัพจะตกไปอยู่ในมือของอันดับ 7 ในลีกแทน
สำหรับอันดับ 5, 6 และ 7 นอกเหนือจากทีมในกลุ่มลุ้นตั๋วยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ถือว่ายังมีลุ้นกันจนถึงอันดับ 11 เลยทีเดียว เนื่องจาก แอสตัน วิลลา มี 48 คะแนน ยังเหลืออีก 4 เกมในมือ หากชนะรวดคว้า 12 แต้มเต็ม แล้วคู่แข่งด้านบนทำแต้มหล่นหายหมดก็มีโอกาสเข้าวินแบบปาฏิหาริย์ได้เช่นกัน
สรุปสถานการณ์อันดับ 9-11
อันดับ 9 อาร์เซนอล 52 คะแนน เหลือ 3 นัด (9 แต้ม)
อันดับ 10 ลีดส์ ยูไนเต็ด 50 คะแนน เหลือ 3 นัด (9 แต้ม)
อันดับ 11 แอสตัน วิลลา 48 คะแนน เหลือ 4 นัด (12 แต้ม)