เดินทางมาถึงช่วงโค้งสุดท้ายของเวทีพรีเมียร์ลีกกันแล้ว การลุ้นแชมป์ไม่ต้องไปพูดถึง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ น่าจะคว้าแชมป์ไปครองได้แบบสบายหายห่วงแน่นอน เพราะตอนนี้มีแต้มนำห่างแมนฯ ยูไนเต็ด รองจ่าฝูงเป็นเลข 2 หลักด้วยกัน
แต่ไฮไลต์ของพรีเมียร์ลีกในตอนนี้คือการแย่งโควตายูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ซึ่งตอนนี้เหลือเพียงแค่โควตาเดียวคืออันดับ 4 ของตาราง ซึ่งตอนนี้ เชลซีจับจองอยู่
ที่บอกว่าเหลือโควตาเดียวก็เพราะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อันดับ 2 และเลสเตอร์ ซิตี้ รั้งที่ 3 ก็น่าจะได้ตั๋วไปลุยแชมเปียนส์ลีก เพราะมีแต้มค่อนข้างห่างอยู่พอสมควร
ส่วนที่ 4 นั้นนอกจาก เชลซีมี 58 คะแนน แล้วก็ยังมีเวสต์แฮม (อันดับ 5 มี 55 คะแนน), ลิเวอร์พูล (อันดับ 6 มี 54 คะแนน), ทอตแนม ฮอตสเปอร์ (อันดับ 7 มี 53 คะแนน) และ เอฟเวอร์ตัน (อันดับ 8 มี 52 คะแนน) ก็ยังมีลุ้นในการไล่ล่าตั๋ว ชปล. เช่นเดียวกัน
เรียกได้ว่าอันดับ 4 นั้นมีค่ายิ่งกว่าทองคำซะอีก เพราะการได้ตั๋วไปลุยแชมเปียนส์ลีก เรียกได้ว่าการันตีรายได้ 50 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,950 ล้านบาท) ขึ้นไป
สถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ระบาดหนักอย่างนี้บอกได้เลยเงินจำนวนนี้จากโควตาได้ลงเตะ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก น่าจะทำให้ทีมเอาตัวรอด
ในฤดูกาลหน้าไปอย่างๆน้อยๆอีก 1 ซีซันได้แน่นอน
รับรองว่าผู้ท้าชิงอันดับ 4 ทุกทีมใส่กันไฟแลบแน่นอน
หนึ่งในผู้ท้าชิงท็อปโฟร์ก็คือแชมป์เก่าอย่าง ลิเวอร์พูล ที่ฟอร์มหลุดใน 2 เกมล่าสุดทำได้แค่เสมอทั้งสองนัดจนทำให้สถานการณ์ของตัวเองลำบากมากขึ้น
หาก “หงส์แดง” เก็บชัยได้ทั้งหมดป่านนี้ก็รั้งอันดับ 4 แบบสวยงามไปแล้ว ไม่ต้องมาดิ้นรนอย่างหนักแบบนี้
ยิ่งเกมในวันที่ 2 พ.ค.นี้ ที่ลิเวอร์พูลจะต้องดวลกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รองจ่าฝูงในศึกแดงเดือด ซึ่งลูกทีมของเจอร์เกน คลอปป์ ไม่มีทางเลือกอื่นต้องชนะให้ได้สถานเดียว เพื่อที่จะได้ลุ้นท็อปโฟร์ไปจนถึงเกมสุดท้าย
แต่ถ้าหากเอาชนะไม่ได้หรือพ่ายแพ้ให้กับ “ปิศาจแดง” ก็ต้องรับสภาพว่าคงไม่ได้ไปเล่น ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ค่อนข้างจะแน่นอน
ทำให้ลิเวอร์พูลจะต้องเน้นเป็นพิเศษ เช่นเดียวกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ก็ต้องเน้นเช่นเดียวกัน นอกจากเป็นเกมแห่งศักดิ์ศรีที่แพ้ไม่ได้แล้ว ก็ต้องการชัยชนะเพื่อไม่ให้แมนฯ ซิตี้ ได้เถลิงแชมป์ง่ายๆ ยื้อให้ได้นานที่สุด
สำหรับ “แดงเดือด” ครั้งที่ 207 หลายคนมองว่าอาจจะไม่สนุก เพราะฟอร์มการเล่นของทั้งสองฝ่ายนั้นต่างกันโดยสิ้นเชิง “ปิศาจแดง” เจ้าถิ่นยิ่งเล่นยิ่งมั่นใจ ขณะที่ลิเวอร์พูล ยิ่งเล่นยิ่งขาดความแน่นอน
แต่เชื่อได้เลยว่าเกมนี้เดือดสมชื่อแน่นอน เพราะลิเวอร์พูลอยู่ในสภาพหลังพิงฝาจะพลาดไม่ได้อีกแล้ว นี่คือฟางเส้นสุดท้ายที่จะลุ้นไปเล่นยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก หากพลาดก็คือจบ
ส่วนแมนฯ ยูไนเต็ด ก็ต้องเต็มที่เพื่อรักษาโมเมนตัมของทีมให้ได้ ยังมีเกมใหญ่รออยู่ในช่วงกลางสัปดาห์
เกมนี้บอกได้เลยมันมีมากกว่าผลการแข่งขันแน่นอน ดีไม่ดีจะมีดราม่าตามสไตล์บิ๊กแมตช์อีกด้วย
ซึ่งเกมนี้แฟนบอลชาวไทยก็ต้องยิ้มอีกครั้งเพราะพีพีทีวี เอชดี 36 ถ่ายทอดสดให้ชมกันแบบฟรีๆ ตั้งแต่เวลา 22.30 น.เป็นต้นไป
ขณะเดียวกันถ้าใครอยากดูแบบคมชัดระบบ 4K ก็ดูได้ที่ทรูวิชั่นส์ 4K (ช่อง 400) หรือช่องทรู พรีเมียร์ ฟุตบอล 1 (ช่อง 600)
ไม่ว่าจะเป็นช่องทางไหนบอกได้คำเดียวห้ามพลาด!!