กุนซือเรอัล มาดริด ปกป้อง เอแดน อาซาร์ และ เซร์คิโอ รามอส ที่ตกเป็นแพะรับบาป โต้ประเด็นจัดตัวพลาด รับ เชลซี สมควรเข้าชิง ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก
วันที่ 6 พ.ค. 64 ควันหลงฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 ซึ่ง เชลซี อันดับ 4 จากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดบ้านชนะ เรอัล มาดริด รองจ่าฝูง ลา ลีกา สเปน แชมป์ยุโรปสูงสุด 13 สมัย 2-0 เข้ารอบชิงชนะเลิศด้วยสกอร์รวม 3-1 ไปลุ้นแชมป์สมัยที่ 2 ต่อจากฤดูกาล 2011-2012 พบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมร่วมลีกในวันเสาร์ที่ 29 พฤษภาคมนี้ ที่สนามอตาเติร์ก โอลิมปิก สเตเดียม ในนครอิสตันบูล ประเทศตุรกี
ด้าน “ราชันชุดขาว” ผู้แพ้ในเกมนี้ถูกวิจารณ์ไม่น้อย โดยเฉพาะกุนซือ ซีเนดีน ซีดาน ถูกตั้งคำถามเรื่องการจัดผู้เล่น 11 คนแรก หลังจากส่ง เซร์คิโอ รามอส กองหลังกัปตันทีมเป็นตัวจริงทันที ทั้งที่ไม่ได้ลงเล่นให้ทีมมาตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม เนื่องจากบาดเจ็บถึง 2 ครั้ง และติดเชื้อโควิด-19 ด้วย
นอกจากนี้ยังใส่ เอแดน อาซาร์ อดีตแนวรุกเชลซีเป็นกองหน้าคู่กับ คาริม เบนเซมา ทั้งที่เพิ่งได้ลงเป็นตัวจริงครั้งที่ 2 ในรอบ 3 เดือนหลังสุด รวมถึงส่ง แฟร์กล็องด์ เมนดี ที่เจ็บไป 3 สัปดาห์กลับมายืนวิงแบ็กฝั่งซ้าย และยังให้ วินิซิอุส จูเนียร์ ที่ถนัดการเล่นในตำแหน่งตัวรุกฝั่งซ้ายไปเป็นวิงแบ็กฝั่งขวาแทน ดานี การ์บาฆัล ที่เดี้ยงยาวอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ซีดาน ได้ออกมาตอบโต้ประเด็นเหล่านี้ว่า “เรากำลังเล่นในรอบรองชนะเลิศและทุกคนก็พร้อมลงเล่น ซึ่งหากพวกเขาไม่พร้อมจริงๆ ก็จะไม่ได้ลงสนาม เราควรภูมิใจในตัวผู้เล่นทุกคน เราต่างก็ทำดีที่สุดแล้วจนได้มาอยู่ตรงนี้ ซึ่งเหลืออีกก้าวเดียวก็จะได้เข้ารอบชิงชนะเลิศ แต่ เชลซี ก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งคุณต้องแสดงความยินดีกับพวกเขา”
“เอแดน จำเป็นต้องให้เวลาเขาเรียกความมั่นใจกลับคืนมา และเขาจำเป็นต้องได้ลงเล่นแบบค่อยเป็นค่อยไป เราต้องแน่ใจว่าเขาจะกลับมาอยู่ในฟอร์มที่ดี ส่วน วินิซิอุส แม้ตำแหน่งที่ดีที่สุดจะเป็นปีกซ้าย แต่เขาก็เล่นฝั่งขวาได้ และวันนี้เราต้องจัดทีมแบบนี้ แต่ผมอยากมองไปที่สิ่งที่ผู้เล่นของผมทำมาตลอดทั้งฤดูกาลมากกว่า ไม่ใช่แค่คืนนี้ ซึ่งรูปแบบของทีมมันชัดเจนมาก เราเล่นแบบนี้มาหลายเกมแล้ว แต่วันนี้เราแพ้ในการดวลตัวต่อตัวหลายครั้ง รวมถึงยังขาดอะไรไปบางอย่าง เราพยายามแล้ว แต่มันก็ยังไม่เพียงพอ”