กุนซือดัตช์ย้ายจาก อาแจ็กซ์ มาพาทีม แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าอันดับสามในลีกซีซั่นก่อน และได้แชมป์ คาราบาวคัพ รวมทั้งหลุดเข้าไปชิงชนะเลิศถ้วย เอฟเอคัพ ด้วย
อย่างไรก็ดี ผ่านมาถึงซีซั่นนี้ผู้จัดการทีมสกินเฮดสร้างผลงานได้อย่างเลวร้ายจนมีท่าทีว่า ผีแดง จะไร้โทรฟี่ แถมเสี่ยงต่อการพลาดโควต้าลงเล่นถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก เช่นกัน
แต่อันที่จริง เทน ฮาก มีผลงานในระดับไหนเมื่อเทียบกับบรรดากุนซือของถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด หลังพ้นยุคสงครามโลกจากเปอร์เซนต์พาทีมกำชัย เราไปส่องดูข้อเท็จจริงกันดีกว่า
– เดฟ เซ็กซ์ตัน 40.3%
เซ็กซ์ตัน คุมทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ระหว่างเดือนก.ค.1977-เม.ย.1981
รวมแล้วเขาได้ทำหน้าที่ 201 นัด แต่พาทีมคว้าชัยชนะได้แค่ 81 นัดแม้จะได้ครองแชมป์ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ร่วมกับ ลิเวอร์พูล ในปี 1977 หลังจากทั้งสองฝ่ายเสมอกัน
– ทอมมี่ ด็อกเคอร์ตี้ 46.9%
ได้รับบทนายใหญ่ แมนฯ ยูไนเต็ด ระหว่างปี 1972-1977 และพาทีมชนะ 107 นัดจาก 228 นัด
ประสบความสำเร็จได้แชมป์ เอฟเอคัพ ปี 1977 รวมทั้งแชมป์ ดิวิชั่นสอง ปี 1975 หลังจาก ผีแดง ตกลงจาก ดิวิชั่นหนึ่ง ในปี 1974
– รอน แอ๊ตกินสัน 50%
กุนซือคนสุดท้ายของ โรงละครแห่งความฝัน ก่อนที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จะเข้ามาพาทีมผงาดสู่ความยิ่งใหญ่ และเริ่มต้นทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมกับการคุมทีมไร้พ่าย 15 นัดในช่วงต้นซีซั่น 1985/86 ก่อนจะมีผลงานที่ตกลงไป
คุมทีมลงเล่น 292 นัด และชนะ 146 นัด ตลอดจนได้แชมป์ เอฟเอคัพ ปี 1983 และ 1985 รวมถึงแชมป์ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ปี 1983
– เซอร์ แม็ตต์ บัสบี้ 51.4%
ชายผู้พา ผีแดง ผงาดเป็นยอดทีมแห่งเกาะอังกฤษจากการคุมทีมลงสนาม 1,141 นัด และประสบกับชัยชนะ 576 นัด
ไม่เพียงจะพาทีมซิวแชมป์ ดิวิชั่นหนึ่ง ได้ห้าสมัย และได้แชมป์ เอฟเอคัพ สองหน ตลอดจนแชมป์ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ห้าครั้ง หากแต่เขายังเนรมิตให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นทีมแรกจากเมืองผู้ดีที่ได้ชูโทรฟี่ ยูโรเปี้ยนคัพ ปี 1968 อีกด้วย
– หลุยส์ ฟาน กัล 52.4%
เป็นกุนซือดัตช์ชื่อดังเช่นกันที่ได้คุมทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ก่อนหน้า เทน ฮาก แต่ถูกสื่อโจมตีถึงสไตล์การเล่นไม่น้อย
พาทีมคว้าชัยชนะได้ 54 นัดจาก 103 นัด และมีผลงานคว้าอันดับท็อปโฟร์ได้ตั้งแต่ซีซั่นแรก รวมถึงได้แชมป์ เอฟเอคัพ ปี 2016
– เดวิด มอยส์ 52.9%
โชคร้ายอย่างแรงที่ต้องแบกรับภาระอันหนักอึ้งในการทำหน้าที่ต่อจากบรมกุนซือ เฟอร์กี้ ที่พาทีมประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล
ประเดิมพาทีมซิวแชมป์ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ได้ทันที แต่โดนไล่ออกในเวลาแค่สิบเดือนจากผลงานชนะ 27 นัดจาก 51 นัด
– โอเล่ กุนนาร์ โซลชา 54.2%
อดีตกองหน้าทีมชาติ นอรเวย์ ไม่อาจพา แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ได้เนื่องจากคุมทีมพ่ายนัดชิงชนะเลิศถ้วย ยูโรปาลีก ด้วยการดวลลูกโทษตัดสิน
ถือเป็นผู้จัดการทีมที่อยู่ในตำแหน่งนานที่สุดนับตั้งแต่ เฟอร์กี้ วางมือเนื่องจากได้คุมทีม 168 นัด และมีผลงานชนะ 91 นัด อีกทั้งพา เร้ด เดวิลส์ คว้าอันดับท็อปโฟร์ได้สองปีซ้อนซึ่งไม่มีนายใหญ่คนไหนทำได้หลังพ้นยุคของป๋าเฟอร์กี้
– โชเซ่ มูรินโญ่ 58.3%
เฮียมู คุมทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ลงบู๊ 144 นัด และชนะ 84 นัด แถมเขานำโทรฟี่ ยูโรปาลีก ,ลีกคัพ และ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ มามอบให้กับสังเวียนแข้ง โอลด์ แทรฟฟอร์ด ด้วย
กระนั้นก็ดี สเปเชี่ยล วัน หนีไม่พ้นโดนสับแหลกว่าวางหมากให้ทีมลงเล่นแบบไร้สีสันกระทั่งสุดท้าย ผีแดง ตกต่ำลงตามลำดับ
– เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน 59.7%
ในฐานะผู้จัดการทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล เฟอร์กูสัน พา แมนฯ ยูไนเต็ด โค่น ลิเวอร์พูล ให้ตกจากบัลลังก์ทีมหมายเลขหนึ่งของประเทศได้อย่างเหลือเชื่อจากการคว้าแชมป์ได้อย่างมากมายก่ายกองทั้ง แชมเปี้ยนส์ลีก และ พรีเมียร์ลีก รวมทั้งเนรมิตให้ ผีแดง เป็นทีมจากอังกฤษรายแรกที่ได้ครองทริปเปิ้ลแชมป์
คุมทีมอย่างยาวนาน 1,500 นัด และชนะ 895 นัดซึ่งมากพอที่จะทำให้ทีมได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก 13 สมัย , เอฟเอคัพ ห้าสมัย ,ลีกคัพ สี่สมัย ,คอมมิวนิตี้ ชิลด์ สิบสมัย ตลอดจนแชมป์สโมสรโลก
– เอริค เทน ฮาก 60%
นายใหญ่คนปัจจุบันของ โรงละครแห่งความฝัน คุมทีมกำชัยได้ 60 นัดแล้วแม้อาจต้องทำงานหนักอีกมากหากหวังพา ผีแดง กลับไปยืนอยู่ในตำแหน่งเดิมที่พวกเขาเคยเป็นเจ้าของ
อย่างไรก็ดี คาดกันว่า เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ เจ้าของร่วม แมนฯ ยูไนเต็ด มีแผนแต่งตั้งผู้จัดการทีมคนใหม่ในซีซั่นหน้าเนื่องจากผลงานของกุนซือดัตช์ไม่เข้าตาอย่างแรง แต่มันจะเป็นอย่างที่สื่อลือกันให้สลอนหรือไม่ก็ต้องรอดูกัน
อัพเดทข่าวสารฟุตบอล แวดวงลูกหนัง สดใหม่ทุกวันได้ทาง “UFA456”