วิเคราะห์ศึกฟุตบอล ยูโร 2020 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มบี นัดแรก “ปิศาจแดงแห่งยุโรป” ทีมชาติเบลเยียม ดวลเดือดกับ รัสเซีย มาเทียบสถิติ-ค่าพลัง และทำนายผลแข่งว่าใครจะเป็นฝ่ายคว้าชัย
การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ยูโร 2020 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มบี นัดแรก ประจำวันเสาร์ที่ 12 มิ.ย. 64 คู่ที่น่าสนใจที่สนาม เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก สเตเดียม (รัสเซีย) “ปิศาจแดงแห่งยุโรป” ทีมชาติเบลเยียม พบกับ “หมีขาว” ทีมชาติรัสเซีย เริ่มแข่งเวลา 02.00 น. ถ่ายทอดสดช่อง NBT 2HD
เกมนี้ โรเบร์โต มาร์ติเนซ กุนซือของเบลเยียม จะไม่สามารถใช้งาน อักเซล วิตเซล และ เควิน เดอ บรอยน์ ที่มีอาการบาดเจ็บ ส่วน เอเดน อาซาร์ด ต้องรอเช็กความฟิตอีกครั้งว่าจะพร้อมลงสนามหรือไม่ คาดว่าแดนกลางจะส่ง ยูริ ติเลอมองส์ ลงปั้นเกม ส่วนแนวรุกมี ธอร์กาน อาซาร์ด, ดรีส์ เมอร์เทนส์ และ โรเมลู ลูกากู เป็นทีเด็ด
ขณะที่ สตานิสลาฟ เชอร์เชซอฟ เทรนเนอร์ของรัสเซีย ไม่มีปัญหานักเตะตัวหลักมีอาการบาดเจ็บ พร้อมจัดเต็มในนัดประเดิมสนาม โดยเกมรุกฝากความหวังเอาไว้ที่ อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน, อเล็กเซย์ มิรานชุค และ อาร์เตม ซูบา
สถิติการพบกันของทั้งสองทีม 7 ครั้ง
เบลเยียม ชนะ 5 ครั้ง / เสมอกัน 2 ครั้ง
ผลงาน 3 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม
เบลเยียม
ชนะ เบลารุส 8-0
เสมอ กรีซ 1-1
ชนะ โครเอเชีย 1-0
รัสเซีย
แพ้ สโลวะเกีย 1-2
เสมอ โปแลนด์ 1-1
ชนะ บัลแกเรีย 1-0
**เทียบค่าพลังต่างๆ***
เบลเยียม ถูกยกเป็นทีมเต็งที่จะเข้ารอบต่อไปในฐานะแชมป์กลุ่ม ขุมกำลังถือว่ามีความครบเครื่องและแข็งแกร่งกว่า รัสเซีย ถึงแม้ว่าอาจจะไม่มี เควิน เดอ บรอยน์ ลงสนามในเกมนี้ แต่ผู้เล่นคนอื่นๆ ก็ถือว่าค้าแข้งอยู่ในสโมสรใหญ่ๆ ในทวีปยุโรปทั้งนั้น แถมผลงาน 3 นัดหลังสุดก็เรียกได้ว่าเข้าฝักสุดๆ ยิงไปรวม 10 ประตู เสียไปแค่ประตูเดียว จึงไม่น่าแปลกใจที่ค่าพลังทั้งเกมรุกและเกมรับของพวกเขาจะเหนือกว่า หมีขาว แบบลิบลับ ส่วน รัสเซีย ได้เล่นในถิ่นของตัวเอง ขวัญกำลังใจน่าจะเหนือกว่าจากบรรยากาศอันคุ้นเคย แต่เรื่องอื่นๆ ถือว่าเป็นรองแทบทุกด้าน ต่อกันที่เรื่องของแท็กติก นี่คือการพบกันของสองทีมที่เล่นระบบเดียวกันนั่นก็คือ 3-4-2-1 แต่ต้องยอมรับว่าคุณภาพของนักเตะทั้งสองทีมค่อนข้างต่างกัน โรเบร์โต มาร์ติเนซ กุนซือเบลเยียม มีอาวุธหนักในแต่ละตำแหน่งที่เล่นอยู่ในลีกดังของยุโรปทั้งนั้น โดยเฉพาะตัวรุกดีๆ อย่าง ติเลอมองส์, เมอร์เทนส์ และ โรเมลู ลูกากู ที่พร้อมลงโทษ รัสเซีย ได้ทุกเมื่อ ส่วน สตานิสลาฟ เชอร์เชซอฟ เทรนเนอร์ของรัสเซีย แม้จะใช้ระบบ 3-4-2-1 แต่กลับทำประตูได้ค่อนข้างน้อยเพราะเล่นแบบรัดกุม และเมื่อฟุตบอลวัดที่การยิงประตู เบลเยียม จึงเป็นฝ่ายเหนือกว่าอย่างชัดเจนในเกมนี้
ทำนายผล: เบลเยียม ชนะ รัสเซีย 3-0