อดีตแข้งทีมชาติอังกฤษชุดเยาวชนของทีม “ราชันมังกร” เชื่อว่า แฮร์รี เคน จะสามารถคืนฟอร์มเก่งได้ แม้ว่าในรอบแบ่งกลุ่ม ยูโร 2020 จะยังทำประตูไม่ได้เลยก็ตาม
พลพรรค “สิงโตคำราม” ผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ ในฐานะแชมป์กลุ่ม ดี ด้วยผลงานชนะ 2 เสมอ 1 มี 7 แต้ม แต่ยิงคู่แข่งได้เพียง 2 ลูกเท่านั้น ซึ่งทั้ง 2 ประตูมาจาก ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ปีกจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ซึ่งกองหลังลูกครึ่งอังกฤษ-ฟิลิปปินส์ วัย 25 ปี ผู้เคยติดทีมชาติอังกฤษ รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี, 17 ปี และ 18 ปี รุ่นเดียวกับ ลุค ชอว์ คาลัม แชมเบอร์ส และ จอร์ดอน ไอบ์ อีกทั้งยังเคยดวลกับ แฮร์รี เคน สมัยเป็นดาวรุ่ง ยังคงเชื่อมั่นว่าดาวยิงจากไก่เดือยทอง จะผ่านพ้นช่วงเวลาอันยากลำบากนี้ไปได้ เพราะเคยประสบกับภาวะปืนฝืดมาก่อน
ลุค วูดแลนด์ เล่าประสบการณ์ของเขา เมื่อครั้งที่เจอกับ แฮร์รี เคน กองหน้าของ ทอตแนม ฮอตสเปอร์ สมัยที่เขายังเล่นในอังกฤษ ผ่านรายการ “Here Comes The Time” ซึ่งทำการวิเคราะห์เกม และบอกเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับฟุตบอล ยูโร 2020 ที่ผลิตโดย Main Stand และออกอากาศผ่านเพจ Facebook “Thairath Sport – ไทยรัฐสปอร์ต” และ Youtube Thairath Online เวลา 19.00 น. ว่า “ตอนผมอายุ 18-19 ผมเคยเจอกับ แฮร์รี เคน เขาอายุมากกว่าผม 2 ปี แม้ตอนนั้นเขาจะยังเป็นดาวรุ่ง แต่ตอนผมเห็นฝีเท้า ผมรู้ได้เลยว่าคนนี้จะกลายเป็นนักเตะชั้นนำในอนาคต”
“เขามีการวางเท้า การสัมผัสบอล ที่ยอดเยี่ยม ถึงแม้ว่าตอนนั้นเขายังไม่มีส่วนร่วมกับเกมเท่าปัจจุบัน แต่ถ้าคุณเสียสมาธิ เปิดโอกาสให้เขาสับไกยิงเมื่อไร เป็นประตูแน่นอน การวางเท้าของเขา การจบสกอร์ของเขา มีคุณภาพมาก คุณสามารถรู้ได้เลยว่าเขามีคลาสบอลที่แตกต่างจากคนอื่น”
“ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เคน ได้พัฒนาตัวเอง จนกลายเป็นหนึ่งในศูนย์หน้าที่ดีที่สุดในโลก ได้รับความสนใจจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และทีมอื่นในโลกด้วย แน่นอนว่าเขาได้รับความกดดันมากมาย เวลาเล่นให้กับทีมชาติ จนทำให้เขาโชว์ฟอร์มไม่ออก แต่ เคน ก็เคยมีช่วงเวลาแบบนี้มาก่อน ทำให้เขาสามารถรับมือกับปัญหานี้ได้ เชื่อว่าเขาจะสามารถตอบโต้คำวิจารณ์เหล่านั้น ด้วยผลงานในสนาม และถ้าเขาเริ่มยิงได้เมื่อไร ก็จะเป็นจุดเปลี่ยนได้ทันที”
ขณะเดียวกัน ดาวเตะจากราชบุรีฯ ยังพูดถึง ลุค ชอว์ ซึ่งเป็นอดีตเพื่อนร่วมทีม สมัยที่เล่นให้กับนักเรียนอังกฤษด้วยกันว่า “ชอว์ เพิ่งเข้ามาติดทีมชาติเมื่อตอนอายุได้ 17-18 ปี และจากนั้นก็ถูกเรียกติดทีมมาตลอดตั้งแต่เยาวชน เรื่อยมาจนถึงทีมชุดใหญ่ ตอนนั้นเขาเล่นให้กับ เซาแธมป์ตัน แต่ก็เริ่มฉายแววเด่นให้เห็นแล้ว เขามีคุณภาพเหนือกว่าเด็กรุ่นราวคราวเดียวกัน คุณจะเห็นศักยภาพของเขาในการก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะระดับท็อปได้เลย”
นอกจากนี้ วูดแลนด์ ยังให้ความเห็นว่า แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือทีมชาติอังกฤษ ควรกล้าเปิดเกมบุกมากกว่านี้ ทั้งที่มีนักเตะเกมรุกฝีเท้าดีอย่าง แจ็ค กรีลิช และ จาดอน ซานโช อยู่ในทีม โดย กรีลิช เพิ่งได้ลงเล่นเป็นตัวจริงเพียงเกมเดียว ในนัดที่ชนะ สาธารณรัฐเช็ก 1-0 ส่วน ซานโช ได้ลงเล่นเพียง 6 นาทีเท่านั้น ในทัวร์นาเมนต์นี้
วูดแลนด์ กล่าวว่า “ผมคิดว่า เซาธ์เกต เล่นแบบเน้นปลอดภัยไว้ก่อน จนถูกวิจารณ์ว่าไม่กล้าเสี่ยง ที่ผ่านมาเขาใช้ เมสัน เมาท์, คัลวิน ฟิลลิปส์ และ ดีแคลน ไรซ์ แพคเกมตรงกลาง ทั้งที่มีนักเตะอย่าง กรีลิช และ ซานโช่ อยู่บนม้านั่งสำรอง โดยเฉพาะ กรีลิช ที่พิสูจน์ตัวเองทุกอย่างแล้วในพรีเมียร์ลีก เขาเลี้ยงกินตัวได้ เรียกฟาวล์ได้เยอะสุดในลีก มีการสร้างสรรค์เกมที่ดี และเล่นลูกนิ่งได้ แล้วทำไม เซาธ์เกต ถึงไม่ค่อยใช้งานเขา”
“ทีมชุดนี้มีศักยภาพเยอะ มีนักเตะดาวรุ่งฝีเท้าดี จนสามารถหมุนเวียนใครลงมาเล่นก็ได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าจะเจอใครในรอบต่อๆ ไป ซึ่งก็มีบิ๊กทีมรออยู่ อย่าง เบลเยียม ก็เป็นทีมที่แข็งแกร่งจนถูกยกให้เป็นเต็งแชมป์ แต่ผมก็หวังนะว่าฟุตบอลจะกลับคืนสู่บ้านของมันอีกครั้ง ก็แอบหวังไว้นะ แล้วค่อยมาดูกัน” วูดแลนด์ ทิ้งท้าย
สำหรับรายการ Here Comes The Time : EURO 2020 นั้นออกอากาศทุกวัน ทางเพจ Thairath Sport – ไทยรัฐสปอร์ต เวลา 19.00 – 20.00 น. โดยมี จิตกร ศรีคำเครือ พิธีกรในรายการ Footballista ทางช่อง Youtube Mainstand TH และ ภัคจิรา จิระวัฒนะภัณฑ์ เจ้าของเพจ Facebook “ดูบอลแบบแฟร์แฟร์” เป็นผู้ดำเนินรายการ ร่วมกับ ไมเคิล เบิร์น อดีตนักเตะทีมชาติเวลส์ ชุดเยาวชน ผู้เคยเล่นในไทยลีกกับ ชลบุรี เอฟซี และ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด.