เปิด 5 นักเตะชื่อดังที่มีโอกาสย้ายทีมภายในช่วงเปิดตลาดซื้อขายนักเตะเดือนมกราคมนี้ มีแข้งของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล ติดโผมาด้วย
ตลาดซื้อขายนักเตะเดือนมกราคมของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดฉากมาตั้งแต่วันที่ 2 เดือนมกราคมที่ผ่านมา และจะปิดตลาดอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีนักเตะหลายคนที่ไม่ค่อยได้รับโอกาสลงสนามกับต้นสังกัด เตรียมเก็บข้าวของย้ายทีมเพื่อออกไปหาโอกาสลงสนามกับทีมอื่นๆ ทั้งแบบยืมตัวและถาวร และนี่คือ 5 นักเตะที่มีโอกาสย้ายทีมในช่วงตลาดหน้าหนาวนี้
1. เจสซี ลินการ์ด (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
สำหรับ ลินการ์ด วัย 28 ปี ที่สามารถเล่นได้ทั้งตำแหน่งกองกลางตัวรุก ปีกซ้าย และปีกขวา เพิ่งได้รับโอกาสจาก โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้ลงสนามรวมทุกรายการไปแค่ 3 นัดเท่านั้น แบ่งเป็น คาราบาว คัพ 2 นัด และ เอฟเอ คัพ 1 นัด นั่นเท่ากับว่าเขาไม่ได้สัมผัสเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แม้แต่นัดเดียวในซีซั่นนี้ ส่งผลให้มันมีแนวโน้มค่อนข้างสูงที่จะเขาจะต้องย้ายทีมเพื่อหาโอกาสลงสนามให้มากขึ้น โดยมีหลายสโมสรที่ให้ความสนใจในตัวเขา ไม่ว่าจะเป็น “ไก่เดือยทอง” ทอตแนม ฮอตสเปอร์, “ดาบคู่” เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด, “เดอะ แบ็กกีส์” เวสต์บรอมวิช อัลเบียน และที่มาแรงสุดๆ ก็คือ “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่มี เดวิด มอยส์ อดีตผู้จัดการทีมปิศาจแดง เป็นกุนซืออยู่นั่นเอง เชื่อกันว่า มอยส์ น่าจะมอบโอกาสลงเล่นที่สม่ำเสมอให้กับ ลินการ์ด ได้ และการได้ลงสนามบ่อยๆ ก็อาจจะเรียกความมั่นใจของ ลินการ์ด ให้กลับคืนมาได้บ้าง ต้องมารอดูกันต่อไปว่าสุดท้ายแล้ว ลินการ์ด จะย้ายไปอยู่กับทีมไหน เพราะถ้าฝืนอยู่ต่อก็หาทางลงเล่นลำบาก มองไปที่ตำแหน่งกองกลางตัวรุกก็ตกเป็นตัวเลือกรองจาก บรูโน เฟอร์นันเดส และ ดอนนี ฟาน เดอ เบค ส่วนปีกซ้าย-ขวาก็มี อองโตนี มาร์เชียล, มาร์คัส แรชฟอร์ด, เมสัน กรีนวูด และ แดเนียล เจมส์ ขวางทางอยู่
2. แบรนดอน วิลเลียมส์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
ถือเป็นอีกหนึ่งนักเตะอนาคตไกลของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สำหรับ แบรนดอน วิลเลียมส์ วัย 20 ปี อย่างไรก็ตาม ฤดูกาลนี้เจ้าตัวเพิ่งได้ลงสนามไปเพียง 6 นัดรวมทุกรายการ แบ่งเป็น ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 2 นัด, คาราบาว คัพ 2 นัด, พรีเมียร์ลีก 1 นัด และเอฟเอ คัพ 1 นัด นั่นทำให้ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ เตรียมปล่อยเขาไปเล่นกับทีมอื่นด้วยสัญญายืมตัว โดยมี “สาลิกาดง” นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด และ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ที่ให้ความสนใจดึงไปใช้งาน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดีกับตัวนักเตะ ดีกว่าที่จะฝืนอยู่แย่งตำแหน่งตัวจริง เนื่องจากตำแหน่งแบ็กซ้ายก็มี ลุค ชอว์ กับ อเล็กซ์ เตลเลส ขวางทางอยู่ ถ้าจะไปลุ้นแย่งตำแหน่งแบ็กขวาก็คงเป็นเรื่องยาก เพราะ อารอน วาน-บิสซากา ยึดตัวจริงไปแบบยาวๆ ไปแล้วนั่นเอง
3. ดิวอค โอริกี (ลิเวอร์พูล)
ถือว่าโดนวิจารณ์หนักหน่วงพอสมควรสำหรับ ดิวอค โอริกี กองหน้าตัวสำรองของลิเวอร์พูล ดีกรีทีมชาติเบลเยียม วัย 25 ปี ที่เพิ่งได้รับโอกาสลงสนามไปแค่ 12 นัดรวมทุกรายการในฤดูกาลนี้ ทำไปเพียง 1 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์ โดยทุกครั้งที่เขาได้รับโอกาสจาก เยอร์เกน คลอปป์ ให้ลงสนาม ก็มักจะทำผลงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร โดยเฉพาะเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อไม่นานมานี้ที่แพ้ เบิร์นลีย์ คาถิ่นแอนฟิลด์ไป 0-1 ในช่วงที่สกอร์เป็น 0-0 เขามีโอกาสได้หลุดเดี่ยว แต่ดันยิงไปชนคานอย่างน่าเสียดาย ถ้าลูกนั้นเป็นประตู ผลการแข่งขันของหงส์แดงอาจไม่ได้แย่แบบนี้ก็เป็นได้ และเมื่อเทียบคุณภาพของ โอริกี กับกองหน้าคนอื่นๆ ของหงส์แดงอย่าง ซาดิโอ มาเน, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โรแบร์โต เฟอร์มิโน แล้ว ต้องบอกเลยว่าห่างกันแบบลิบลับ โอริกี ไม่สามารถทดแทนทั้งสามคนได้อย่างแน่นอน จะเรียกได้ว่าขาดความมั่นใจก็คงจะใช่ แต่เมื่อได้โอกาสแล้วทำได้ไม่ดี มันก็ไม่มีเหตุผลที่ คลอปป์ จะส่งเขาลงสนาม ดังนั้นบางทีการย้ายทีมแบบถาวรหรือยืมตัวในเดือนนี้ อาจเป็นทางเลือกที่ดีต่อตัวเขามากที่สุดก็เป็นได้ เพื่อหาโอกาสลงเล่นอย่างสม่ำเสมอและเรียกความเชื่อมั่นกลับมาอีกครั้ง และเชื่อว่ามีหลายสโมสรที่อยากได้เขาไปร่วมทีม โดยเขามีข่าวพัวพันกับทีมดังในศึกบุนเดสลีกา เยอรมนี อย่าง แอร์เบ ไลป์ซิก รวมถึงทีมในพรีเมียร์ลีกด้วยกันเองอย่าง “หมาป่า” วูล์ฟแฮมป์ตัน ก็ต้องจับตาดูกันต่อไปว่า คลอปป์ จะจัดการกับอนาคตของ โอริกี อย่างไร
4. คริสเตียน อีริคเซน (อินเตอร์ มิลาน)
แม้จะเพิ่งซัดฟรีคิกในช่วงทดเจ็บ นาทีที่ 90+7 พา อินตอร์ มิลาน เอาชนะ เอซี มิลาน ไป 2-1 ในศึกโคปปา อิตาเลีย รอบ 8 ทีมสุดท้าย เมื่อคืนวันอังคารที่ 26 ม.ค. ที่ผ่านมา แต่อนาคตของ อีริคเซน วัย 28 ปี ก็ยังคงเป็นเครื่องหมายคำถามอยู่ดี เพราะแม้เจ้าตัวจะได้ลงเล่นไปถึง 15 นัดรวมทุกรายการในฤดูกาลนี้ แต่กลับได้ลงเล่นในเซเรีย อา ไปเพียง 9 นัดเท่านั้น ส่งผลให้มันมีแนวโน้มสูงที่เขาจะย้ายทีมในเดือนมกราคมนี้ โดยมีข่าวพัวพันกับหลายสโมสรรวมถึง “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล และถ้าเขาทำช็อกย้ายมาอยู่กับ ปืนใหญ่ จริงๆ ก็จะถือเป็นการทรยศในสายตาของแฟนบอล “ไก่เดือยทอง” ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ทีมเก่าของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย ส่วน เลสเตอร์ ซิตี้ ที่มีข่าวกันก่อนหน้านี้ ดูเหมือนจะถอดใจในการไล่ล่าตัวไปแล้ว เนื่องจากสู้ค่าเหนื่อย 10 ล้านยูโรต่อปี และอาจจะเพิ่มเป็น 10 ล้านยูโร ต่อปีไม่ไหวนั่นเอง น่าติดตามว่าสุดท้ายแล้วถ้า อีริคเซน กลับมาค้าแข้งในลีกสูงสุดของแดนผู้ดีจริงๆ เขาจะสามารถโชว์ฟอร์มได้เหมือนกับตอนค้าแข้งกับ สเปอร์ส หรือไม่ เนื่องจากเขาเคยสร้างผลงานชิ้นโบแดงซัดไปถึง 69 ประตู จากการลงเล่นให้ไก่เดือยทองรวมทุกรายการ 305 นัด นั่นเอง
5. มาร์ติน โอเดการ์ด (เรอัล มาดริด)
สำหรับ โอเดการ์ด วัย 22 ปี แสดงความชัดเจนว่าต้องการย้ายออกจากทีม เรอัล มาดริด เพื่อหาโอกาสในการลงสนามมากขึ้น หลังจากฤดูกาลนี้เขาเพิ่งได้โอกาสไปแค่ 9 นัดรวมทุกรายการ โดยมีข่าวพัวพันกับหลายสโมร ไม่ว่าจะเป็น อาร์เซนอล, เซบีญา และ เรอัล โซเซียดาด แต่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวต้องการมาหาความท้าทายใหม่ๆ ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มากที่สุด ซึ่ง สกาย สปอร์ต ยืนยันว่า โอเดการ์ด ใกล้ที่จะกลายเป็นนักเตะใหม่ของ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล เต็มที หลังจากบรรลุข้อตกลงและผ่านการตรวจร่างกายกับปืนใหญ่เป็นที่เรียบร้อย เหลือเพียงแค่รอชูเสื้ออย่างเป็นทางการเท่านั้น โดยจะเป็นการย้ายแบบยืมตัวจนจบฤดูกาลนี้ ต้องบอกเลยว่าตอนที่ โอเดการ์ด ย้ายจาก สตรอมกอดเซต มาอยู่กับราชันชุดขาวเมื่อปี 2015 เคยได้รับการยกย่องจากหลายฝ่ายว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในนักเตะชั้นยอดของวงการลูกหนัง แต่ทำไปทำมา ทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่คิด เนื่องจากเจ้าตัวถูกปล่อยให้หลายทีมยืมตัวไปใช้งานไม่ว่าจะเป็น ฮีเรนวีน, วิเทสส์ และ เรอัล โซเซียดาด และล่าสุดใกล้จะเป็น อาร์เซนอล ที่จะได้ชุบชีวิตค้าแข้งของเขาขึ้นมาใหม่อีกครั้ง