อูไน เอเมรี ไม่เกรงใจทีมเก่า ชี้ อาร์เซนอล ไม่สมควรได้จุดโทษ ทำให้ยังมีความหวังที่จะพลิกสถานการณ์แซง บียาร์เรอัล เข้ารอบชิงฯ ยูโรปาลีก
วันที่ 30 เม.ย. 64 ควันหลงฟุตบอลยูโรปาลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก ซึ่ง บียาร์เรอัล อันดับ 7 ลา ลีกา สเปน เปิดบ้านเฉือนชนะ อาร์เซนอล อันดับ 10 พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2-1 โดยเกมนี้ทั้งคู่เหลือ 10 คนเช่นเดียวกัน หลังจาก ดานี เซบาญอส มิดฟิลด์ “ปืนใหญ่” โดนใบเหลือง-แดงไล่ออกในนาทีที่ 57 ก่อนที่ เอเตียนน์ กาปู กองกลาง “เรือดำน้ำสีเหลือง” จะรับใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดงบ้างในนาทีที่ 80
อย่างไรก็ตาม อาร์เซนอล ทีมเยือนยังมีความหวังพลิกสถานการณ์ แม้ว่า บียาร์เรอัล เจ้าถิ่นจะนำก่อน 2 ลูกในครึ่งแรกจาก มานูเอล ตริเกรอส นาทีที่ 5 และ ราอูล อัลบิโอล นาทีที่ 29 แต่ก็มาได้ประตูทีมเยือนกลับบ้านจากการสังหารจุดโทษของ นิโคลัส เปเป นาทีที่ 73 ก่อนกลับไปเล่นที่เอมิเรตส์ สเตเดียม นัดที่ 2 ในวันพฤหัสบดีที่ 6 พฤษภาคมนี้
จุดโทษดังกล่าวทำให้ อูไน เอเมรี กุนซือ “เรือดำน้ำสีเหลือง” ที่เคยคุมทีม “ปืนใหญ่” ระหว่างปี 2018-2019 ก่อนถูกปลดและแทนที่โดย มิเกล อาร์เตตา ผู้จัดการทีมคนปัจจุบัน ออกอาการหัวเสียที่ อาร์ตูร์ โซอาเรส ดิอาส ผู้ตัดสินชาวโปรตุเกสให้จุดโทษทีมเก่าง่ายเกินไป หลังจากเช็กวีเออาร์แล้วมองว่า มานูเอล ตริเกรอส มีการสะกิดโดน บูกาโย ซากา เล็กน้อยก่อนล้มลงในเขตโทษ
เอเมรี ให้สัมภาษณ์ว่า “จุดโทษนี้ไม่สมควรเป็นจุดโทษ นี่เป็นการตัดสินจังหวะสำคัญที่ผิดพลาด รวมถึงวีเออาร์ที่น่าจะเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นด้วย แต่เกมนี้เราสมควรเป็นผู้ชนะ เรามีโอกาสได้ประตูที่ 3 หลายครั้ง ซึ่งเราจะเล่นแบบเดิมต่อไป เพื่อคุมเกมและแสดงออกถึงแนวทางของเรา หลังจากมีการปรับแผนสำหรับเกมนี้เพื่อคว้าชัย ซึ่งมันก็ประสบความสำเร็จ และเราจะเล่นแบบนี้ต่อไปในเลกที่ 2 เพื่อบุกไปยิงประตูที่นั่น”